What can we help you with?

รวมคำถามประกันรถยนต์ที่พบบ่อย

รวบรวมทุกคำถามที่พบบ่อย ไขข้องใจสำหรับประกันภัยรถยนต์ 

เพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์

คำถามเกี่ยวกับประกันรถยนต์ ไดเร็ค เอเชีย

Q: ไดเร็ค เอเชีย เป็นตัวแทนประกันภัยรถยนต์ให้กับใคร?

A: บริษัท ไดเร็ค เอเชีย (ประเทศไทย) เป็นนายหน้าประกันภัยดำเนินธุรกิจภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และรับประกันโดย บริษัทฟอลคอน ประกันภัย (จำกัด) มหาชน

บริษัท ไดเร็ค เอเชีย (ประเทศไทย) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2013 เป็นบริษัทในเครือ ไดเร็คเอเชีย ก่อตั้งที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปี 2010 และเป็นส่วนหนึ่งของ Hiscox Group ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยระดับโลกก่อตั้งเมื่อปี 1901

Q: ประกันภัยคุ้มครองในประเทศใดบ้าง?

A: กรมธรรม์คุ้มครองรถคุณในประเทศไทยเท่านั้น

Q: อยากเปลี่ยนประกันรถยนต์เป็นประกันชั้น 1 ทำอย่างไร?

A: หากคุณต้องการเปลี่ยนประกันรถยนต์หรือซื้อประกันในระดับที่สูงขึ้น (เปลี่ยนจาก พ.ร.บ., ประเภท 3, ประเภท 2, ประเภท 3+, ประเภท 2+ มาเป็นประเภท 1) เราต้องตรวจสภาพรถยนต์ โดยสามารถออกกรมธรรม์ได้ก่อนการตรวจสภาพ แต่หากไม่มีการตรวจสภาพรถยนต์ภายใน 7 วัน กรมธรรม์นั้นจะถูกยกเลิก โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่เริ่มคุ้มครอง และเราจะคืนเบี้ยประกันให้กับคุณ

Q: จะซื้อประกันต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้างและซื้อออนไลน์ได้หรือไม่?

A: 1. เลขตัวถังรถยนต์ และทะเบียนรถยนต์
2. รายละเอียดเกี่ยวกับบัตรเครดิต/เดบิต
3. เลขบัตรประชาชนของคุณและของผู้ขับขี่ระบุชื่อ
4. กรณีที่คุณต้องการโอนส่วนลดเบี้ยประวัติดี 50% กรุณาเตรียมใบเตือนต่ออายุ
แล้วถ้าซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ได้จะดีไหม? ประกันภัยจากไดเร็คเอเชียเราสามารถติดต่อซื้อและเช็คประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถดูขั้นตอนวิธีซื้อประกันรถยนต์และเปรียบเทียบการคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทรวมถึงการคุ้มครองเพิ่มเติมได้ด้วย

Q: หากซื้อรถใหม่ลูกค้าสามารถทำประกันผ่านไดเร็คเอเชียได้หรือไม่?

A: ได้เลย ทางเรายินดีต้อนรับด้วยบริการชั้นเลิศและอู่ซ่อมรถที่ได้มาตรฐานแค่บอกกับพนักงานขายรถยนต์ว่า คุณต้องการทำประกันรถยนต์เอง หากคุณมีตัวเลือกเปลี่ยนประกันรถยนต์ของบริษัทอื่น สามารถเช็คเบี้ยประกันกับ DirectAsia ได้ก่อนการตัดสินใจ เช็คเบี้ยประกันออนไลน์ได้ง่ายๆ ไม่กี่นาที หรือโทรหาเราที่ 02-767-7777

Q: ซื้อประกันแบบไหนได้บ้าง ถ้ารถยังผ่อนอยู่กับไฟแนนซ์?

A: ความคุ้มครองสำหรับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ในประเทศไทย ความคุ้มครองของประกันภัยภาคสมัครใจนั้นกว้างมาก ตั้งแต่การคุ้มครองเต็มรูปแบบ ไปจนถึงความคุ้มครองแบบจำกัด ซึ่งแบ่งเป็นประเภทได้ดังนี้
ประเภท 1 ประกันภัยรถยนต์
ประกันชั้น 1 ซึ่งเป็นประกันภัยภาคสมัครใจที่ได้รับความนิยมที่สุดในประเทศไทย ประกันภัยประเภท 1 นี้คุ้มครองความเสียหายต่อยานพาหนะของผู้เอาประกันและคู่กรณี ความบาดเจ็บทางร่างกาย ความเสียหายจากไฟไหม้ โจรกรรม หรือภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม นอกจากนี้ยังคุ้มครองไปถึงความเสียหายต่อกระจกรถ และค่าใช้จ่ายในการลากจูง
ประเภท 2+ ประกันภัยรถยนต์
ความคุ้มครองคล้ายกับประเภท 1 แต่จะไม่คุ้มครองยานพาหนะของผู้เอาประกันโดยไม่มีคู่กรณี (เช่น ขับชนกำแพงลานจอดรถ)
ประเภท 3+ ประกันภัยรถยนต์
คุ้มครองชีวิตร่างกายและทรัพย์สินคู่กรณี รวมถึงการชนยานพาหนะทางบกของรถผู้เอาประกันภัย
ประเภท 2 ประกันภัยรถยนต์
คุ้มครองชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี รวมถึงคุ้มครองความสูญหายและเหตุไฟไหม้ของตัวรถยนต์ผู้เอาประกันภัย
ประเภท 3 ประกันภัยรถยนต์
คุ้มครองเฉพาะชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี

คำถามเกี่ยวกับการชำระเงินและคำนวณค่าเบี้ยประกันภัย

Q: ผ่อนชำระได้หรือไม่?

A: คุณสามารถเลือกผ่อนชำระได้ เมื่อซื้อกรมธรรม์ประภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1, ประเภท 2+ และประเภท 3+ ที่มีระยะเวลาคุ้มครองอย่างต่ำ เต็ม 1 ปี ไม่สามารถเลือกผ่อนชำระได้หากซื้อกรมธรรม์ประกันภัยประเภท 2, ประเภท 3, พ.ร.บ.เพียงอย่างเดียว หรือผู้เอาประกันภัยเป็นนิติบุคคล คุณสามารถเลือกผ่อนชำระรายเดือนโดยติดต่อทีมลูกค้าสัมพันธ์ของเราได้ที่ 02-767-7777 เมื่อสมัครเรียบร้อยแล้ว ระบบจะตัดเงินผ่านบัตรเครดิตโดยอัตโนมัติจนครบ 10 งวด

Q: ทำไมถึงผ่อนชำระ 10 งวด ไม่ใช่ 12 งวด?

A: การผ่อนชำระคิดดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน เราจะเรียกเก็บ 10 งวด โดยที่งวดแรกจะเป็นการชำระค่าเบี้ยประกันสำหรับ 3 เดือน (รวมภาษีและอากรแสตมป์) งวดที่เหลือเป็นจำนวนเท่ากัน โดยระบบจะตัดเงินทุกเดือนในวันเดียวกับที่ชำระเบี้ยงวดแรก คุณสามารถดูรายละเอียดการผ่อนชำระได้จาก STATEMENT OF ACCOUNT (SOA) ซึ่งจะแจ้งบอกทางอีเมลโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการชำระเบี้ยสำเร็จในแต่ละงวด เพื่อสรุปยอดคงค้างให้ลูกค้าทราบ คุณจะได้รับใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีเมื่อชำระเบี้ยประกันครบทุกงวด

Q: บัตรเดบิตผ่อนประกันภัยรถยนต์ได้ไหม?

A: ไดเร็ค เอเชีย สามารถทำประกันรถยนต์ผ่อนได้แม้ไม่มีบัตรเครดิต สำหรับผู้ที่ซื้อประกันภัยรถยนต์กับ ไดเร็ค เอเชีย สามารถผ่อนชำระผ่านบัตรเดบิตที่มีวีซ่าได้ ออกโดย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารทหารไทย หรือธนาคารกสิกรไทย ผ่อน 0% นานถึง 10 งวด โดยเดือนแรก ชำระยอด 25% ของเบี้ยประกันทั้งหมด รวมภาษี และอากรแสตมป์ เดือนต่อไปสามารถชำระยอดต่อเดือนตามปกติ โดยระบบจะตัดผ่านบัตรเดบิตอัตโนมัติ ตรงกับวันที่ชำระงวดแรก

Q: ทำอย่างไรถึงจะได้ค่าเบี้ยประกันถูก?

A: กรมธรรม์ของเรา ให้คุณจ่ายเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการเท่านั้น ซึ่งมีหลายวิธีที่ช่วยคุณจะลดเบี้ยประกันได้
1. เรามีประกันรถยนต์ให้เลือกถึง 5 แผน คุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการและตามราคาเบี้ยประกัน
2. เลือกจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรกสูงขึ้น ยิ่งจ่ายค่าความเสียหายส่วนแรกสูง เบี้ยประกันก็ยิ่งถูกลง (หมายเหตุ: ใช้ได้กับประเภท 1 เท่านั้น
3. รถบางรุ่น (เช่น รถที่มีกำลังขับเคลื่อนสูง) ค่าเบี้ยประกันภัยจะแพงกว่ารถประเภทอื่น อย่าลืมนึกถึงเรื่องนี้ถ้าจะซื้อรถใหม
4. ประกันภัยรถยนต์ของเรา ให้ความคุ้มครองจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และคุณสามารถจ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่ม เพื่อซื้อความคุ้มครองอื่นๆเพิ่มเติม

Q: จะทราบได้อย่างไรว่าชำระเงินเรียบร้อยแล้ว?

A: เมื่อชำระเงินแล้ว คุณจะได้รับอีเมลยืนยันพร้อมหมายเลขอ้างอิงการทำธุรกรรม **(หมายเลขกรมธรรม์) ซึ่งหมายความว่าเราได้รับการชำระเงินของคุณเรียบร้อยแล้ว หากมีปัญหาเกี่ยวกับการชำระเงิน ทีมลูกค้าสัมพันธ์จะติดต่อไปหาคุณ หากไม่มีปัญหาใดๆ เราจะดำเนินการตามคำสั่งซื้อของคุณ และส่งหลักฐานการรับชำระเงินพร้อมกรมธรรม์ฉบับจริงไปยังที่อยู่ตามที่ระบุไว้

Q: วิธีคำนวณเบี้ยประกัน?

A:  การคำนวณเบี้ยประกันภัยรถยนต์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่
- ประวัติผู้ขับขี่
- อายุ
- ประสบการณ์การขับขี่
- ส่วนลดเบี้ยประวัติดี
- จำนวนของผู้ขับขี่ที่ต้องการระบุในกรมธรรม์
ปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ก็มี ยี่ห้อรถ รุ่น และอายุของรถ ถ้าเลือกให้มีความเสียหายส่วนแรกจะทำให้เบี้ยประกันภัยถูกลง ยิ่งความเสียหายส่วนแรกสูง เบี้ยประกันก็ยิ่งถูกลง (หมายเหตุ: ใช้ได้กับประกันประเภท 1 เท่านั้น) ความคุ้มครองเพิ่มเติมที่คุณเลือกก็มีผลต่อค่าเบี้ยประกันเช่นกัน

Q: ส่วนลดเบี้ยประวัติดีคืออะไร?

A: ส่วนลดเบี้ยประวัติดี คือ ส่วนลดที่ผู้เอาประกันได้รับ เมื่อต่ออายุ และปีที่ผ่านมาไม่มีการเรียกร้องค่าเสียหาย หรือ หากมีการเรียกร้องต้องเป็นฝ่ายถูก โดยส่วนลดเบี้ยประวัติดี จะให้เป็นลำดับขั้น เพื่อให้ได้รับส่วนลดเบี้ยประวัติดีดังกล่าว คุณจะต้องทำประกันมาแล้วอย่างน้อย 1 ปีคือ:
20% หากปีแรกไม่มีการเคลม
30% หากไม่มีการเคลมภายใน 2 ปีติดต่อกัน
40% หากไม่มีการเคลมภายใน 3 ปีติดต่อกัน
50% หากไม่มีการเคลมภายใน 4 ปีติดต่อกัน

คำถามเกี่ยวกับการใช้รถและค่าเสียหายส่วนแรก

Q: หากเป็นรถดัดแปลง จะได้รับความคุ้มครองหรือไม่?

A: ประกันยังคงให้ความคุ้มครองในกรณีที่ลูกค้าแต่งรถเพื่อความสวยงาม หรือเพื่อให้รถยึดเกาะกับถนนได้ดีขึ้น ไม่ใช่แต่งรถเพื่อเพิ่มความเร็ว เพื่อการแข่งขัน ถือเป็นการใช้รถผิดประเภท ซึ่งลูกค้าจะต้องทำการแจ้งแก่บริษัทฯประกันเพื่อทำการประเมินพิจารณารับประกันความคุ้มครอง แต่หากลูกค้าได้ทำการตกแต่งรถ หลังจากทำประกันไปแล้ว ลูกค้าจำเป็นจะต้องแจ้งให้ทางบริษัทฯประกันทราบ เพื่อความคุ้มครองชุดอุปกรณ์ตกแต่งนั้นด้วย หากไม่แจ้ง บริษัทฯประกันจะคุ้มครองอุปกรณ์พื้นฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ตามที่ออกจากโรงงานเท่านั้น

Q: อุปกรณ์แต่งรถและอะไหล่ได้รับความคุ้มครองหรือไม่?

A: กรมธรรม์จะคุ้มครองอุปกรณ์และอะไหล่ที่เป็นอุปกรณ์พื้นฐาน เมื่อคุณซื้อรถมาจากโรงงานผลิตรถยนต์หรือผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ และอุปกรณ์เหล่านี้ยังอยู่กับตัวรถยนต์ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ เกิดความเสียหาย หรือถูกโจรกรรม อุปกรณ์เหล่านี้จะได้รับการเปลี่ยน ซ่อม หรือจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายให้กับคุณ หากคุณต้องการให้มีความคุ้มครองกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มเข้ามาใหม่ คุณควรติดต่อเราซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยที่คุณทำด้วย

Q: ลักษณะการใช้รถ คืออะไร?

A: 1. ใช้ส่วนตัว : คุณใช้รถสำหรับทำธุระส่วนตัวและเพื่อการพักผ่อนเท่านั้น
2. ใช้ส่วนตัวและเดินทางไปทำงาน : คุณขับรถไปกลับที่ทำงานด้วย
3. ใช้รถในกิจกรรมส่วนบุคคล : ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานหรือธุรกิจ

Q: ค่าความเสียหายส่วนแรกคืออะไร?

A: ความเสียหายส่วนแรกมีสองประเภทที่กฎหมายบังคับให้มี
(1) ที่ลูกค้าเลือกรับ (Deductible)
หมายถึง จำนวนค่าเสียหายส่วนแรก ที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับภาระ ตามข้อตกลงของการประกันภัย ซึ่งปรากฏในหน้าตารางกรมธรรม์ อาจจะมีหรืออาจจะไม่มี ตามการตกลงโดยผู้เอาประกันภัยและบริษัทประกันภัย
(2) ตามกฏหมายบังคับ (Excess)
หมายถึง จำนวนค่าเสียหายส่วนแรก ที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับภาระ ตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย 

*ค่าเสียหายภาคบังคับ โดยมีข้อกำหนดว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ หรือเกิดการชนแต่ไม่สามารถแจ้งคู่กรณีได้ จำนวน 1000 บาท ต่อเหตุการณ์

คำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนกรมธรรม์

Q: ทำไมถึงต้องทำประกันภัยรถยนต์

A:ประกันรถยนต์ นั้นมีความสำคัญอย่างมาก ช่วยคุ้มครองรถคุณ ตัวคุณ รวมไปถึงคู่กรณี ได้ในหลายเรื่อง เพื่อสร้างความอุ่นใจให้คุณ และเป็นการคุ้มครองความเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุ จากการชน,ภัยธรรมชาติ รวมถึง สูญหาย ไฟไหม้

Q: สามารถเปลี่ยนแปลงรายละเอียดส่วนตัวใน กรมธรรม์ได้หรือไม่?

A: คุณสามารถเปลี่ยนแปลงรายละเอียดส่วนตัวได้ โดยติดต่อทีมลูกค้าสัมพันธ์ได้ที่ 02-767-7777 วันจันทร์ถึงวันศุกร์ 08.00-19.00 น. หรือส่งอีเมลหาเราที่ [email protected]

Q: สามารถเปลี่ยนแปลงความคุ้มครองได้หรือ ไม่?

A: คุณสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขความคุ้มครองภายในกรมธรรม์ได้ โดยติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-767-7777  (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)

Q: หากผู้ซื้อ ประกันให้ข้อมูลเท็จในการซื้อกรมธรรม์ บริษัทประกันภัยสามารถยกเลิกกรมธรรม์ ได้หรือไม่?

A: ใช่ค่ะ หากบริษัทประกันภัยพบว่าคุณไม่ได้เปิดเผยข้อมูลตามความเป็นจริงทั้งหมด เรามีสิทธิ์ยกเลิกกรมธรรม์ของคุณ โดยจะแจ้งให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 30 วันนับจากวันที่ทราบเรื่อง

Q: สามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้หรือไม่?

A: คุณสามารถยกเลิก กรมธรรม์ได้ตลอดเวลา โดยแจ้งให้เราทราบล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษร การยกเลิกจะมีผลตั้งแต่วันที่เราได้รับแจ้งการยกเลิกในฐานะตัวแทนของบริษัท ประกันภัย หรือตามวันที่ระบุในเอกสาร การจ่ายคืนเบี้ยประกันจะคำนวนตามตารางที่แสดงไว้ในกรมธรรม์ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการยกเลิก

Q: หากมีข้อร้องเรียนกับ DirectAsia Thailand ฉันต้องทำอย่างไร?

A: เรามีความรับผิดชอบต่อการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการ บริการที่มีคุณภาพกับคุณ แต่หากมีข้อร้องเรียนใดๆ เกี่ยวกับกรมธรรม์ของคุณ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์เพื่อแจ้งข้อร้องเรียนได้ที่ [email protected] นอกจากนี้คุณสามารถส่งข้อร้องเรียนนั้นไปให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่ง เสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)เพื่อขอให้เป็นตัวกลางในการหาข้อยุติ สำหรับกรณีนี้ได้

การต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย

Q: ต่ออายุกรมธรรม์ ทำอย่างไร?

A: การต่อกรมธรรม์กับไดเร็คเอเชีย เป็นเรื่องสบายๆ เพียงโทรเข้ามา เราจะจัดการให้คุณในไม่กี่นาที และยังมีบริการส่งหนังสือแจ้งเตือนล่วงหน้า 45 วัน ก่อนกรมธรรม์หมดอายุอีกด้วย

Q: เป็นไปได้หรือไม่ที่ค่าเบี้ยประกันในการต่ออายุ เพิ่มขึ้น ขณะที่วงเงินคุ้มครองลดลง?

A: เป็นไปได้ในบางสถานการณ์ การคำนวณค่าเบี้ยประกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่นำมาพิจารณา รวมถึงประวัติการเกิดอุบัติเหตุและข้อมูลผู้ขับขี่ มูลค่าของรถยนต์ตามราคาตลาดนั้น ไม่ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงโดยตรง เพราะไม่มีผลต่อการเคลมความเสียหายด้านทรัพย์สินและการบาดเจ็บจากคู่กรณี นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายซ่อมรถยนต์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลกระทบต่อเบี้ยประกันทั้งๆ ที่ไม่ได้เคลมเลย

Q: ทำไมเบี้ยประกันถึงเพิ่มขึ้น?

A: หากปีนั้นมีอัตราการเคลมประกันโดยรวมสูง บริษัทประกันภัยจึงมีความจำเป็นต้องขึ้นค่าเบี้ยประกันสำหรับผู้ขับขี่ทุก ท่าน ไม่ว่าจะเคยเคลมหรือไม่ก็ตาม หากคุณไม่เคยมีประวัติการเคลม ค่าเบี้ยประกันของคุณก็จะต่ำกว่าผู้ที่เคยมีประวัติการเคลม

Q: ฉันไม่ได้เคลมเลยในปีที่ผ่านมา เป็นไปได้หรือไม่ ที่ค่าเบี้ยประกันของฉันจะเพิ่มขึ้น?

A: กรณีนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ก็เป็นไปได้ การคำนวณเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อาจเป็นไปได้ว่ามีสถิติการเคลมเพิ่มขึ้นในรถยนต์ยี่ห้อและรุ่นเดียวกับคุณ จึงทำให้เบี้ยประกันสูงขึ้นตามไปด้วย หรืออาจเกิดจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น ค่าซ่อมรถเพิ่มขึ้น ค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย และค่าใช้จ่ายทางการแพทย์สูงขึ้น เบี้ยประกันจึงเพิ่มขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายดังกล่าว