A: เหตุผลที่รถยนต์บางกลุ่มเบี้ยประกันภัยแพงกว่ากลุ่มอื่น เป็นเพราะคปภ.ได้กำหนดเกณฑ์การแบ่งกลุ่มรถยนต์ในการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรมแก่ผู้ขับขี่
เบี้ยประกันภัยของรถยนต์แต่ละกลุ่มที่ถูก-แพง ไม่เท่ากัน มาจากหลายปัจจัยประกอบกัน หนึ่งในปัจจัยหลักนั้นก็คือ “กลุ่มรถยนต์” โดยพิจารณาจาก รุ่นรถยนต์ ชนิดของรถยนต์ ขนาดเครื่องยนต์ ราคาอะไหล่ หรือค่าซ่อม ร่วมด้วย ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในมาตรา 30 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 โดยมีการจัดกลุ่มรถยนต์ ดังนี้
เกณฑ์การแบ่งกลุ่มรถยนต์
กลุ่มรถยนต์แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะแบ่งตามราคาอะไหล่ ค่าซ่อมรถยนต์ ยี่ห้อ และรุ่นรถยนต์ โดยมีเกณฑ์ดังนี้
- กลุ่มที่ 1 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 5,000,000 บาท ขึ้นไป
- กลุ่มที่ 2 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 1,500,000 – 5,000,000 บาท
- กลุ่มที่ 3 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 1,000,000 – 1,500,000 บาท
- กลุ่มที่ 4 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 700,000 – 1,000,000 บาท
- กลุ่มที่ 5 คือรถยนต์ราคาไม่เกิน 700,000 บาท
นอกจากนี้ คปภ.ยังพิจารณาให้ปรับกลุ่มรถยนต์ประเภทรถนำเข้า ขึ้น 1 ขั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ยี่ห้อ A ราคา 800,000 บาท จัดอยู่ในกลุ่มที่ 4 แต่เมื่อเป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศ จะต้องปรับกลุ่มขึ้น 1 ขั้น จากกลุ่มที่ 4 จึงเลื่อนขึ้นไปอยู่ในกลุ่มที่ 3 แทน