เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์ราคาดี

A: การเลือกทำประกันรถยนต์ควรคำนึงถึงความจำเป็นของความคุ้มครองที่จะได้รับ ให้เข้ากับพฤติกรรมการขับขี่ของคุณ

• หากคุณขับรถไม่ชำนาญ ไม่มั่นใจ และมักเฉี่ยวชนบ่อยครั้ง เลือกประกันชั้น 1 ที่คุ้มครองสูงสุด อาจตอบโจทย์กับคุณมากที่สุด เนื่องจากคุณจะได้รับความคุ้มครองกรณีรถชนสิ่งของ และรถชนรถร่วมด้วย
• หากคุณขับรถชำนาญ ขับทุกวัน หรือเดินทางบ่อย เลือกประกันชั้น2+ รับความคุ้มครองกรณีรถชนรถ รถหาย และไฟไหม้ เพื่อความอุ่นใจทุกครั้งเวลาขับขี่รถ
• หากคุณขับรถชำนาญและไม่ค่อยไปพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติหรือมีที่จอดรถที่ปลอดภัย ​​เลือกประกันชั้น 3+ จะช่วยให้ประหยัดขึ้น
• หากคุณไม่ค่อยได้ขับรถหรือจอดมากกว่าขับ แต่ขับรถได้อย่างชำนาญ เลือกประกันชั้น 2 ก็เพียงพอแล้ว
• หากคุณขับรถเก่าหรือรถมือสอง แถมไม่เคยมีประวัติขับรถชนเลย เลือกประกันชั้น 3 ก็หายห่วง เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ยังมีประกันคุ้มครองผู้เอาประกันอยู่

A: ประกันรถยนต์มี 2 ประเภท

1. ประกันรถยนต์ภาคบังคับ(พ.ร.บ.) เป็นประกันรถที่คปภ.กำหนดให้รถยนต์ทุกคันต้องทำ เพื่อรับความคุ้มครองเมื่อได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเท่านั้น จะไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถหรือความเสียหายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ
2. ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ และผู้เอาประกัน มีให้เลือกตั้งแต่ประกันชั้น 1, 2+, 2, 3+ และ ชั้น 3 โดยแต่ละชั้น จะให้ความคุ้มครองที่ต่างกัน ซึ่งประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองสูงสุด เรียงลงมาถึงชั้น 3 ที่ให้ความคุ้มครองต่ำสุด

A: DirectAsia มีประเภทประกันให้คุณเลือกได้ตามความเหมาะสมของการใช้งานกับคุณ ตั้งแต่ ชั้น1, ชั้น1เซฟ, ชั้น2+, ชั้น3+, ชั้น2, ชั้น3

• ชั้น 1 - แน่นอนว่ามีความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด จะได้รับความคุ้มครองมากกว่าชั้นอื่นๆ นอกจากอุบัติเหตุแบบมีจากการชน,ภัยธรรมชาติ รวมถึงรถหายไฟไหม้ ความเสี่ยงของรถยนต์แต่ละคันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวผู้ขับขี่ หรือตัวรถเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ว่าเรามีความเสี่ยงแค่ไหน เช่นขับรถไกลทุกวัน หรือใช้รถประจำทุกวัน เป็นต้น ประกันชั้น 1 จึงตอบโจทย์ผู้ที่ใช้รถเยอะหรือใช้เป็นประจำทุกวัน (รายละเอียดความคุ้มครองชั้น1)
• ชั้น 1เซฟ – แน่นอนว่ามีความคุ้มครองที่ครอบคลุมเคลมมีคู่กรณี และสามารถเลือกค่าความเสียหายส่วนแรกในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี เพื่อให้ได้เบี้ยประกันถูกกว่า แต่ความคุ้มครองเหมือนประกันภัยชั้น1 เหมาะกับผู้ใช้รถเป็นประจำ แต่ต้องการได้เบี้ยประกันภัยถูกลง (รายละเอียดความคุ้มครองชั้น1เซฟ)
• ชั้น2+ คุ้มครองแบบเฉพาะภัย ความคุ้มครองที่รองลงมาจากชั้น 1 แบบรถชนรถเท่านั้น และคุณยังคงได้ความคุ้มครอง สูญหาย ไฟไหม้ พิเศษสำหรับลูกค้า Direct Asia มีความคุ้มครองภัยธรรมชาติและเลือกวงเงินคุ้มครองได้ โดยชั้น2+ เหมาะสำหรับผู้ใช้เป็นประจำ และต้องการประหยัดเบี้ยประกันภัย (รายละเอียดความคุ้มครองชั้น 2+)
• ชั้น3+ เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถน้อยและผู้ที่มีความกังวลการเกิดอุบัติเหตุจากรชนรถ และทรัพย์สินคู่กรณี (รายละเอียดความคุ้มครองชั้น 3+)
• ชั้น 2 คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถของผู้เอาประกันจากการถูกไฟไหม้ สูญหาย บาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก (รายละเอียดความคุ้มครองชั้น 2)
• ชั้น 3 คุ้มครองความเสียหายเฉพาะทรัพย์สินและการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก (รายละเอียดความคุ้มครองชั้น 3)

• Value Plan คุ้มครองเฉพาะผู้ขับขี่ที่ถูกระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ หากผู้ขับขี่ไม่มีชื่ออยู่ในกรมธรรม์ จะถูกเรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรก*ซึ่งแผนนี้ช่วยคุณประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยได้มากที่สุด ทั้งนี้สามารถเพิ่มผู้ขับขี่ร่วมได้อีก 1 ท่าน
• Value Plus Plan สำหรับผู้ขับขี่ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปและมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ 2 ปี สามารถขับขี่รถคันเอาประกันได้โดยไม่ต้องมีชื่อในกรมธรรม์ หากผู้ขับขี่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี และมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ไม่น้อยกว่า 2 ปี จะถูกเรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรก*
• Flexible Plan สำหรับผู้ขับขี่ทุกคนที่มีใบอนุญาตขับขี่ สามารถขับรถยนต์ได้

เพราะมีเบี้ยที่ไม่ตายตัว โดยคำนวณเบี้ยจากประสบการณ์การใช้งานรถ และยังมีแผนรองรับที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ สามารถเลือกความคุ้มครองแบบหยืดยุ่นได้โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเบี้ยที่ตายตัว

A: เบี้ยประกันรถยนต์เป็นจำนวนเงินที่ผู้ทำประกันต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันภัย เพื่อซื้อหรือต่อความคุ้มครองตามแผนประกันรถยนต์ที่เลือกไว้ ซึ่งอัตราเบี้ยประกันรถยนต์ที่แต่ละคนต้องจ่ายมักมีราคาแตกต่างกัน มากน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ผู้ทำประกันได้เลือก ดังนี้

• 1. ประเภทประกันรถยนต์ หรือแผนความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ยิ่งความคุ้มครองมากเท่าไร เบี้ยประกันภัยก็ยิ่งราคาสูงมากขึ้นตามกัน ผู้ขับขี่จึงควรเลือกความคุ้มครองที่ตอบโจทย์กับการใช้งานรถยนต์ของตนเอง เพื่อรับเบี้ยประกันภัยที่คุ้มค่าที่สุด
• 2. ทุนประกัน คือวงเงินความคุ้มครอง หรือค่าชดเชยที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายให้ผู้ทำประกัน กรณีประสบอุบัติเหตุ ทรัพย์สินเสียหาย สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และเสียชีวิต ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกรมธรรม์ที่ได้ทำไว้ หากผู้ทำประกันเลือกทุนประกันภัยไว้สูงมาก ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ก็จะยิ่งสูงตามเช่นกัน
• 3.แผนซ่อมอู่หรือซ่อมห้าง การเลือกแผนการซ่อมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกับเบี้ยประกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเลือกแผนซ่อมอู่ มีโอกาสที่เบี้ยประกันภัยจะราคาดีกว่าซ่อมศูนย์ เนื่องจากบริษัทประกันภัยจะสามารถตกลงค่าซ่อม ค่าแรง หรือค่าอะไหล่ กับอู่ซ่อมได้ง่ายกว่าศูนย์บริการ จึงช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่ง ทำให้ผู้ทำประกันจ่ายน้อยกว่าด้วยนั่นเอง
• 4. ค่าเสียหายส่วนแรก เป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ทำประกันต้องรับผิดชอบกรณีเกิดอุบัติเหตุต่อตัวรถยนต์ เพื่อเป็นการป้องกันผู้เอาประกันแจ้งเคลมทั้งที่ไม่ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง รวมถึงลดความประมาทของผู้ขับขี่ให้มีความระมัดระวัง ป้องกันความเสียหาย และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นขณะขับขี่ ทั้งนี้ ผู้ทำประกันยังสามารถปรับเพิ่ม หรือลดค่าเสียหายส่วนแรกได้ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ของแต่ละบริษัทประกันภัยด้วย

A: เหตุผลที่รถยนต์บางกลุ่มเบี้ยประกันภัยแพงกว่ากลุ่มอื่น เป็นเพราะคปภ.ได้กำหนดเกณฑ์การแบ่งกลุ่มรถยนต์ในการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรมแก่ผู้ขับขี่

เบี้ยประกันภัยของรถยนต์แต่ละกลุ่มที่ถูก-แพง ไม่เท่ากัน มาจากหลายปัจจัยประกอบกัน หนึ่งในปัจจัยหลักนั้นก็คือ “กลุ่มรถยนต์” โดยพิจารณาจาก รุ่นรถยนต์ ชนิดของรถยนต์ ขนาดเครื่องยนต์ ราคาอะไหล่ หรือค่าซ่อม ร่วมด้วย ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในมาตรา 30 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 โดยมีการจัดกลุ่มรถยนต์ ดังนี้

เกณฑ์การแบ่งกลุ่มรถยนต์
กลุ่มรถยนต์แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะแบ่งตามราคาอะไหล่ ค่าซ่อมรถยนต์ ยี่ห้อ และรุ่นรถยนต์ โดยมีเกณฑ์ดังนี้

• กลุ่มที่ 1 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 5,000,000 บาท ขึ้นไป
• กลุ่มที่ 2 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 1,500,000 – 5,000,000 บาท
• กลุ่มที่ 3 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 1,000,000 – 1,500,000 บาท
• กลุ่มที่ 4 คือรถยนต์ราคาตั้งแต่ 700,000 – 1,000,000 บาท
• กลุ่มที่ 5 คือรถยนต์ราคาไม่เกิน 700,000 บาท

นอกจากนี้ คปภ.ยังพิจารณาให้ปรับกลุ่มรถยนต์ประเภทรถนำเข้า ขึ้น 1 ขั้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ยี่ห้อ A ราคา 800,000 บาท จัดอยู่ในกลุ่มที่ 4 แต่เมื่อเป็นรถนำเข้าจากต่างประเทศ จะต้องปรับกลุ่มขึ้น 1 ขั้น จากกลุ่มที่ 4 จึงเลื่อนขึ้นไปอยู่ในกลุ่มที่ 3 แทน

A: แนะนำประกันรถยนต์ 2+ เพราะเป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองที่คล้าย ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่สุดและราคาเบี้ยประกันภัยถูกกว่า โดย ไดเร็ค เอเชีย มีความพิเศษเพิ่มขึ้นตรงที่สามารถเลือก ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ได้ และที่พิเศษยิ่งกว่า รับทุนประกันเป็น 2 เท่า สำหรับการคุ้มครองความเสียหายจากกรณีเกิดเหตุรถสูญหายและไฟไหม้* เหมาะกับทุกคนที่ใช้รถยนต์ มีประวัติการขับขี่ที่ดี และต้องการให้มีประกันภัยคุ้มครองคล้าย ประกันภัยชั้น 1 ประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่นอกเหนือจาก เบี้ยประกันรถยนต์ แถมยังได้รับความคุ้มครองกรณี รถหาย หรือ รถไฟไหม้ อีกด้วย

และประกันรถยนต์ 3+ เหมาะกับทุกคนที่ใช้รถยนต์ ที่ต้องการจ่ายเบี้ยประกันภัยแบบประหยัด และยังคงได้รับความคุ้มครองรถยนต์ที่ทำประกัน แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ่ายเบี้ยประกันรถ ได้รับความคุ้มครองเทียบเท่า ประกันรถแบบรายปี และสามารถเลือกระยะเวลาในการคุ้มครองได้