อยากขับรถให้สนุก สะดวกสบาย คล่องตัว ให้เหมาะกับสภาพจราจรในเมืองใหญ่ ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดขับ หรือนักขับที่มีประวัติโชกโชน เชื่อว่าหลายคนเลือกที่จะขับรถเกียร์ออโต้กันมากกว่ารถเกียร์ธรรมดา แต่นอกจากระบบเกียร์ออโต้ที่เราใช้ขับขี่บนทางราบเป็นประจำ หากเราต้องขับรถขึ้นเนินหรือขึ้นเขา ก็ต้องรู้จักใช้เกียร์ออโต้ให้ถูกวิธีกันก่อนเจอปัญหาเบรกไหม้ระหว่างทริป!
เตรียมขับเกียร์ออโต้ขึ้น-ลงเขา ต้องเข้าเกียร์ไหน ?
หากคุณเป็นนักขับมือใหม่ หรือไม่ค่อยได้ขับขึ้นทางชัน ทางเนินบ่อยนัก อาจมีความจำเป็นค่อนข้างมากในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ระบบเกียร์ออโต้ และเข้าใจจังหวะการเบรกให้ถูกวิธี เพื่อลดโอกาสการเกิดเบรกไหม้ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยจากการพยายามเบรกรถตลอดทางขึ้นลงเขา และนี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เมื่อต้องขับรถขึ้นลงเขาใช้เกียร์อะไรให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง
- ขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขา หากต้องขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์ออโต้ ควรขับรถขึ้นเขาไปด้วยเกียร์ต่ำอย่างช้าๆ โดยให้ใช้เกียร์ D เป็นหลัก หากเจอระดับความชันค่อนข้างมากให้เปลี่ยนไปใช้เกียร์ D1 และเลือกใช้เกียร์ D2 ในช่วงที่พื้นที่ลาดชันไม่มากนัก ควบคู่กับการแตะคันเร่งแบบเบาๆ เพื่อให้รถค่อยๆ ไต่ขึ้นระดับไปเรื่อยๆ
- ขับรถเกียร์ออโต้ลงเขา เมื่อต้องขับรถเกียร์ออโต้ลงเขา ก็ยังต้องใช้วิธีการเดียวกันกับตอนขับรถขึ้นเขา คือใช้เกียร์ D เป็นหลัก และปรับใช้เกียร์ D1, D2 ตามระดับความลาดชันช่วงขาลง แต่ห้ามใช้เกียร์ N ระหว่างทางลงเขาเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เราไม่สามารถควบคุมความเร็วรถได้อย่างเต็มที่
|
‘เบรกไหม้’ รับมือยังไงให้ไปต่อได้ถึงปลายทาง ? นอกจากการเช็กสภาพรถยนต์ให้พร้อมก่อนเดินทางอยู่เสมอๆ แล้ว แต่หากเราต้องประสบพบเจอเหตุการณ์เบรกไหม้ เกิดควันโขมงขึ้นกับรถแบบฉุกเฉิน ควรเตรียมความ พร้อมด้วยการซ้อมรับมือไว้
|
ทางราบ-ทางเนิน ต้องรู้วิธีใช้เกียร์ออโต้ให้ถูก
อ่านกันมาจนถึงตรงนี้ หลายคนอาจเริ่มมองการขับรถระบบเกียร์ออโต้เปลี่ยนไป และอาจได้รู้วิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาให้ปลอดภัยกันมากขึ้น รวมถึงการขับรถเกียร์ออโต้ในทางราบ เพื่อช่วยถนอมให้ระบบเกียร์รถยนต์ใช้งานไปได้แบบยาวๆ ดังนี้
- ควรเปลี่ยนเกียร์เมื่อรถหยุดนิ่ง การเปลี่ยนเกียร์ไปมาระหว่างขับขี่ คือการใช้งานปกติโดยทั่วไป แต่ในกรณีของเกียร์ D (Drive), R (Reverse) และ N (Neutral) เราควรเปลี่ยนก็ต่อเมื่อรถจอดนิ่งสนิทเท่านั้น เช่น เข้าเกียร์ถอยหลัง(R) -จอดสนิท-เปลี่ยนเป็นเกียร์เดินหน้า(D) เพราะหากเราสลับเกียร์เร็วจนผิดจังหวะ อาจทำให้ระบบเกียร์ผิดปกติและมีปัญหาในระยะยาวได้
- ใช้เกียร์ P เฉพาะตอนเข้าที่จอดรถ เพราะเมื่อเราเข้าเกียร์ P จะเท่ากับเป็นการล็อกระบบอื่นๆ ไปด้วย เรียกว่าเหมือนเป็นการเข้าเบรกมือเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุชนท้ายที่มีแรงกระแทกมหาศาล อาจมีผลให้ระบบเกียร์ออโต้พังหรือเสียหายได้ ฉะนั้นหากเราจอดรถติดไฟแดงทั่วไป จึงแนะนำให้เข้าเกียร์ N ไว้ หรือหากกลัวว่ารถจะไหลก็ให้ใส่เบรกมือไว้เพื่อความอุ่นใจด้วยก็ได้
- คิกดาวน์ขณะขับเกียร์ออโต้ การคิกดาวน์รถ (Kickdown) คือการเหยียบคันเร่งรถให้ลึกกว่าปกติ โดยการเร่งรอบคันเร่งเกียร์ออโต้ให้เร็วขึ้น และมักจะเกิดขึ้นเมื่ออยู่ในสถานการณ์เร่งแซงรถคันหน้า แต่การขับรถในลักษณะนี้จะเสี่ยงให้เกียร์มีอุณหภูมิสูงและเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้
- อย่าขับแบบลากเกียร์ การขับรถที่ใช้เกียร์ไม่สัมพันธ์กับความเร็วรถ เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมขับรถที่ทำให้ระบบเกียร์ออโต้เสียเร็วขึ้น เพราะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและทำให้เกียร์สึกหรอได้เร็วขึ้นนั่นเอง
- เลือกใช้ปุ่ม Shift Lock ให้ถูกเวลา ฟังก์ชันของปุ่มนี้มักถูกใช้ในกรณีที่เราจอดรถซ้อนคัน ซึ่งจำเป็นต้องปลดเกียร์รถยนต์ไว้ แต่โดยหลักการทั่วไปที่เราจำเป็นต้องเข้าเกียร์ P (Parking) เมื่อจอดรถ จนทำให้ไม่สามารถขยับรถได้ ซึ่งปุ่ม Shift Lock จะช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนเป็นเกียร์ N แม้จะดับเครื่องยนต์หมดแล้วได้
หวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่ใช้รถยนต์เกียร์ออโต้ได้ไม่มากก็น้อย พร้อมๆ กับการขับขี่ด้วยความระมัดระวังอย่างสม่ำเสมอ เมื่อต้องขับรถขึ้นเขาให้พยายามขับด้วยเกียร์ต่ำ ไม่แซงทางโค้ง และหมั่นให้สัญญาณบอกเพื่อนร่วมทางอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการทำประกันชั้น 1 เพื่อความอุ่นใจตลอดเส้นทางการขับขี่ ที่มาพร้อมสิทธิ์พิเศษเฉพาะผู้ที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น คำนวณเบี้ยหรือเช็กราคา ได้ที่นี่
บทความที่เกี่ยวข้อง
- พาทำความรู้จักฟิล์มรถยนต์แต่ละประเภท และข้อดีของฟิล์มรถยนต์ที่หลายคนมองข้าม
- เผยวิธีดูปีที่ผลิตยางรถยนต์ กี่ปีควรเปลี่ยน แล้วดูตรงไหน ?
- ลาย เส้นกระจกหลัง มีไว้ทำไม ลอกออกได้ไหม หรือมีไว้เพื่อความสวยงาม ?
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร. 0-2767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th
