ขับรถเที่ยวหน้าฝน อย่างไรให้ปลอดภัย
ถึงจะเข้าหน้าฝน ก็ไม่สามารถหยุดยั้งให้ใครหลายคนออกไปเที่ยวกันได้ใช่ไหมคะ ซึ่งการ ขับรถเที่ยวหน้าฝน มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้สูงกว่าปกติ เพราะฝนตกถนนก็ลื่น ทัศนวิสัยในการมองถนนก็ไม่ชัดเจน วันนี้เราเลยมีคำแนะนำ สำหรับใครที่จะขับรถไปเที่ยวในช่วงหน้าฝนมาฝากค่ะ
เช็คสภาพรถยนต์ให้พร้อม
เช็คสภาพรถยนต์ ระบบไฟ, ที่ปัดน้ำฝน, ระบบไล่ฝ้า, ระบบเบรค, ยางรถยนต์, ระดับของเหลวต่างๆ , น้ำมันรถ ตรวจสอบให้อยู่ในสภาพดี และพร้อมใช้งาน ตรงไหนเสียหรือเสื่อมสภาพก็รีบจัดการซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ดีกว่าชะลอความเร็ว
ชะลอความเร็วของรถ หรือให้ขับช้ากว่าการขับในสภาพอากาศปกติ อาจจะใช้ความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. เพื่อที่เราสามารถควบคุมรถขณะขับได้อย่างสม่ำเสมอ และป้องกันความเสี่ยงรถที่อาจจะลื่นไถลออกนอกทิศทางได้รักษาระยะห่างจากคันหน้า
เวลาที่ขับรถหน้าฝน ควรรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า ในระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย เมื่อมีความจำเป็นประมาณสัก 10-15 เมตร เพราะหน้าฝนเวลาฝนตกหนักๆ ถนนลื่น จะใช้ระยะในการเบรคเพิ่มขึ้นกว่าปกติ เพื่อเป็นการป้องกันในกรณีต้องเบรครถกะทันหัน จะได้สามารถหยุดรถได้ทันท่วงทีเพื่อไม่ให้ไปชนเข้ากับรถคันข้างหน้าหลีกเลี่ยงเบรคกะทันหัน
ขับรถในหน้าฝนแล้วเจอฝนกำลังตก ควรเบรคอย่างระมัดระวังและมั่นคงตลอดการขับรถ หลีกเลี่ยงการเบรคอย่างกะทันหัน รวมถึงการใช้เบรคโดยไม่จำเป็น แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นมาก็ค่อยๆ แตะเบรค ลดเกียร์ให้ต่ำลง แล้วชะลอความเร็ว เพื่อให้หยุดรถได้อย่างปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตและรถของคุณเองด้วยเปิดไฟหน้าไว้ตลอด
เมื่อฝนตกควรเปิดไฟหน้าไว้ เพื่อช่วยให้มองเห็นถนนอย่างชัดเจน และให้รถคันอื่นที่ขับสวนไปมามองเห็นรถเราด้วย ขับรถหน้าฝนอย่าเปิดไฟฉุกเฉินขณะขับรถ จะควรใช้เมื่อต้องจอดรถข้างทางเท่านั้นเปิดไฟตัดหมอกเมื่อฝนตกหนัก
สำหรับการขับรถหน้าฝน ไฟตัดหมอกหน้ารถ ให้เปิดใช้เมื่อฝนตกหนักมากๆ จนมองทางไม่เห็น เพื่อให้รถที่สวนมามองเห็นรถของเราเปิดที่ปัดน้ำฝนให้เหมาะสม
เปิดที่ปัดน้ำฝนให้ความเร็วเหมาะกับความแรงฝนที่กำลังตกลงมา เพื่อจะได้ไม่รบกวนการมองทางข้างหน้าเวลาที่ขับรถอยู่ปิดแอร์และเข้าเกียร์ต่ำเมื่อมีน้ำท่วมขัง
พอเข้าหน้าฝน แน่นอนว่าเมื่อต้องขับผ่านจุดที่มีน้ำท่วมขังจากฝนตก ควรปิดระบบแอร์และใช้เกียร์ต่ำ เพราะถ้ารอบเครื่องยนต์ต่ำเกินไปน้ำอาจจะย้อนเข้าท่อไอเสียแล้วทำให้รถดับ เมื่อขับผ่านจุดน้ำท่วมมาแล้ว ให้ย้ำเบรคบ่อยๆ เพื่อรีดน้ำให้ผ้าเบรคแห้ง เพื่อช่วยป้องกันอาการเบรคลื่นสังเกตป้ายเตือนให้ดี
ให้สังเกตป้ายเตือนต่างๆ เช่น ถนนชำรุด มีทางโค้งอันตราย ก็ไม่ควรเสี่ยงขับไปต่อ ยิ่งถ้าเป็นเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ให้มองหาเส้นทางที่ปลอดภัยมากกว่าจอดรถรอฝนหยุดเมื่อมองไม่เห็นทาง
ถ้าฝนตกหนัก ลมพัดแรง จนไม่สามารถเห็นทางข้างหน้าได้เลย แนะนำว่าให้หาที่จอดรถรอจนกว่าฝนจะหยุดหรือฝนซาลง แล้วจึงค่อยขับรถไปต่อ
จะขับรถด้วยสภาพอากาศหน้าฝนหรือแบบไหนก็ตาม เตือนตัวเองต้องไม่ประมาท ขับด้วยความระมัดระวังและมีสติ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองค่ะ
#SafeDriver #DirectAsia #ไดเร็คเอเชีย #ประกันภัยออนไลน์ #การันตีราคาดีที่สุด
เปรียบเทียบประกันรถยนต์ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้านการประกันรถยนต์ ทั้ง ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิกเว็บไซต์ https://www.directasia.co.th หรือสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ โทร 02-767-7777
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด