- ระวังสูญเสียการทรงตัว
- ระวังน้ำเข้าตัวรถ
- ระวังเรื่องทัศนียภาพการขับขี่ที่ไม่ดี
- ระวังเบรก
- ระวังค่าซ่อมบานปลาย
สภาพอากาศ เป็นหนึ่งอุปสรรคในการขับขี่บนท้องถนน โดยเฉพาะภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะพายุ ฝน หรือน้ำท่วม ผู้ขับขี่ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ การหาแนวทางป้องกันภัยในการขับขี่ จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่อาจมองข้ามได้เช่นกัน
เพื่อความปลอดภัย DirectAsia ขอนำเสนอ 5 ข้อต้องระวัง เมื่อขับรถฝ่าฝนตกหนัก พร้อมวิธีรับมือง่าย ๆ ฉบับที่มือใหม่ก็ปฏิบัติตามได้
ขับรถฝ่าฝนตกหนัก ต้องระวังอะไรบ้าง
-
ระวังสูญเสียการทรงตัว
“น้ำ” ที่ปกคลุมไปทั่วถนน เปรียบได้กับแผ่นฟิล์มบาง ๆ ที่เคลือบอยู่บนพื้น เมื่อล้อรถของคุณขับเคลื่อนผ่านตัวกลาง หรือน้ำ มีความเป็นไปได้สูงที่ล้อรถจะไม่เกาะถนน และเกิดการลื่นไถล หรือเกิดการเหินน้ำ จนถึงขั้นรถเสียการทรงตัว และเกิดอุบัติเหตุในที่สุด
👉ข้อแนะนำ: ขณะขับขี่ควรจับพวงมาลัยด้วย 2 มือ และให้ขับด้วยความเร็วที่เหมาะสม 40-60 กม./ชม. แม้จะถึงจุดหมายช้าเล็กน้อย แต่ปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า
-
ระวังน้ำเข้าตัวรถ
ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง หากขับรถลุยน้ำ อาจทำให้น้ำไหลซึมเข้าห้องโดยสารได้ โดยจุดที่เสี่ยงน้ำไหลเข้าตัวรถส่วนใหญ่จะมาทางท่อไอเสีย ช่องแอร์ รวมไปถึงขอบประตู หน้าต่าง และตัวเครื่อง
👉ข้อแนะนำ: ไม่ควรขับรถลุยน้ำ ให้หลีกเลี่ยงไปเส้นทางอื่นแทน แต่หากมีความจำเป็นต้องขับลุยจริง ๆ ก็ควรขับด้วยความเร็วที่ต่ำ ปิดแอร์หรือระบบปรับอากาศ เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า เมื่อต้องการเบรกให้แตะเบรกเบา ๆ และกรณีที่มองไม่เห็นถนน คุณควรสังเกตการขับขี่ของรถคันหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าเส้นทางข้างหน้าปลอดภัยที่จะขับไปต่อหรือไม่
-
ระวังเรื่องทัศนียภาพการขับขี่ที่ไม่ดี
เมื่อฟ้าฝนไม่เป็นใจ ทัศนียภาพบนท้องถนนย่อมมีอุปสรเป็นธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นหมอกลงจัด ฝนตกหนัก หรือฝุ่น-ลม ล้วนมีผลต่อการมองเห็นของผู้ขับขี่ และสิ่งที่จะตามมาคืออุบัติเหตุนั่นเอง
👉ข้อแนะนำ: การเปิดไฟหน้ารถจะช่วยให้ผู้ขับขี่คันอื่น สังเกตเห็นรถคุณได้ง่ายมากขึ้น หากมีไฟตัดหมอกก็สามารถเปิดได้เช่นกัน ทั้งนี้ ที่ปัดน้ำฝนจะช่วยให้คุณมองเห็นเส้นทางข้างหน้า และควรเลือกระดับความเร็ว ให้เหมาะสมกับสภาพฝน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดไว้ตลอดเวลา นอกจากนี้ เมื่อฝนตกหนัก ภายในห้องโดยสารอาจมีโอกาสเกิดฝ่าได้ง่าย การลดกระจกลงเล็กน้อย จะช่วยให้อากาศถ่ายเท และฝ่าบนกระจกได้
-
ระวังเบรก
การเหยียบเบรกอาจเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ต้องคำนึง เพราะคุณอาจเผลอเบรกกะทันหัน เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ฝนตก และถนนลื่น การเหยียบเบรกดังกล่าว อาจทำให้รถเบรกไม่อยู่ และเสียการควบคุม ไปชนรถยนต์คันหน้าได้ และคันข้างหลังก็เสี่ยงที่จะชนรถคุณได้เช่นกัน
👉ข้อแนะนำ: หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแรง ๆ หรือเบรกกะทันหัน ให้ค่อย ๆ แตะเบรก เพื่อให้รถชะลอความเร็ว ในขณะเดียวกันให้ใช้เกียร์ต่ำร่วมด้วย
-
ระวังค่าซ่อมบานปลาย
รถยนต์ที่ขับฝ่าฝนตกหนัก หรือมรสุม มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อรถยนต์ หรือเกิดอุบัติเหตุต่อผู้ขับขี่ได้ ซึ่งคุณไม่อาจทราบล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด
👉ข้อแนะนำ: ซื้อประกันรถยนต์ไว้ อุ่นใจเรื่องเงิน และการได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันรถ ดังนี้
ประกันรถยนต์ คุ้มครองภัยธรรมชาติ
หลายท่านอาจยังไม่ทราบ ว่าประกันรถยนต์ให้ความคุ้มครองด้านภัยธรรมชาติด้วย โดยเฉพาะ ภัยน้ำท่วม พายุฝน ทั้งนี้ สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 1 เซฟ และประกันรถยนต์ชั้น 2+ จาก ไดเร็ค เอเชีย ยังให้ความคุ้มครองครอบคลุมรวมไปถึงภัยธรรมชาติอื่น ๆ เช่น ลูกเห็บตก แผ่นดินไหว หรือไฟไหม้ ด้วยทุนประกันที่เลือกได้ตามใจชอบ
ประกันรถยนต์ คุ้มครองภัยธรรมชาติ มีความจำเป็นอย่างไร
หากกล่าวถึงภัยธรรมชาติ จะเห็นว่าช่วงฤดูฝนในประเทศไทย มีโอกาสเกิดพายุฝน และอุทกภัยทุกปี ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมไม่น้อย เช่น รถจมน้ำท่วม รถสตาร์ตไม่ติด รถดับ หรือห้องโดยสารได้รับความเสียหาย
สถิติการเคลมจาก ไดเร็ค เอเชีย ที่ผ่านมา พบว่ากว่า 50% จากรถยนต์ทุกประเภท รถเก๋งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมมากที่สุด เช่น พรมเปียก ห้องโดยสารมีกลิ่นเหม็น สเกิร์ตหน้าหลุด หรือกันชนหน้าหลุด ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 140,000 บาท/เหตุการณ์ ทั้งนี้ ไดเร็ค เอเชีย ให้ความคุ้มครองตามทุนประกันที่ได้ตกลงไว้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย มีความเป็นไปได้ว่ารถยนต์อาจได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติได้เช่นกัน การทำประกันรถยนต์ไว้ เป็นเสมือนผู้ช่วยเพิ่มความอุ่นใจ ให้คุณได้ซ่อมรถยนต์กับอู่ในเครือที่ได้มาตรฐาน ค่ารักษาพยาบาล ได้รับการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในด้านการเคลมทุกประการ รวมถึงคุณยังไม่ต้องเสี่ยงจ่ายเงินค่าซ่อมรถที่แพง อาจส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินได้เช่นกัน
สนใจประกันรถยนต์ ไดเร็ค เอเชีย โทร 02-767-7777 หรือ https://www.directasia.co.th/
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ประกันรถน้ำท่วม ประกันชั้น 2+ คุ้มครองน้ำท่วมให้รถคุณ!!
- รถจมน้ำ ประกันจ่ายไหม ซ่อมแล้วเคลมประกันได้หรือเปล่า
- 5 ไอเดียสุดเจ๋ง ป้องกันภัยน้ำท่วมรถ 2564
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th