ขาดต่อภาษีรถยนต์มา 3 ปีแล้ว ทำยังไงดี! ภาษีรถยนต์ขาดเกิน 3 ปีเสียเท่าไหร่? ต้องบอกว่าปัญหานี้เป็นปัญหาสุดคลาสสิคที่มักจะมีผู้ใช้รถยนต์ถามเข้ามามากมาย เพราะการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนในประเทศไทยนั้น เจ้าของรถมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบต่างๆ อย่างเคร่งครัด ซึ่งหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ การต่อภาษีรถยนต์ประจำปีในทุกๆ ปี
หากท่านปล่อยให้ภาษีรถยนต์ของท่านขาดอายุการต่อเกินกว่า 2-3 ปี หรืออาจจะนานกว่านั้น จะส่งผลให้ท่านต้องเสียค่าปรับตาม ค่าธรรมเนียม และอาจจะต้องพบกับขั้นตอนในการต่อที่ยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงโทษและบทลงโทษอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามกฎหมาย ดังนั้น การวางแผนและจัดการเรื่องนี้ให้เป็นระบบจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
วันนี้ Direct Asia จึงมีบทความที่จะนำเสนอขั้นตอนและวิธีการต่อภาษีรถยนต์ สำหรับคนที่ทะเบียนขาดเกิน 3 ปี พร้อมแนะนำข้อควรระวังและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
การต่อภาษีรถยนต์หรือต่อทะเบียนรถ คืออะไร
การต่อภาษีรถยนต์หรือที่บางคนเรียกว่าการต่อทะเบียนรถยนต์ คือ การชำระภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์ทุกคันที่ใช้บนท้องถนนในประเทศไทย ซึ่งภาษีรถยนต์เป็นค่าธรรมเนียมที่รัฐบาลเรียกเก็บเพื่อใช้ในการบำรุงรักษาถนน และสร้างความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนน ในทุกๆ ปีเจ้าของรถยนต์ต้องทำการชำระภาษีรถยนต์ตามวันที่กำหนดในป้ายทะเบียน การต่อภาษีจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด และจะต้องมีเอกสารที่ครบถ้วน
ทะเบียนรถขาดได้ไม่เกินกี่ปี ภาษีรถยนต์ขาดเกิน 3 ปีเสียเท่าไหร่
การขาดต่อภาษีรถยนต์สามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น การหลงลืม ความไม่สะดวก หรือการย้ายถิ่นฐาน แต่การขาดต่อภาษีมีระยะเวลาที่จำกัดตามกฎหมายและมีค่าปรับที่ต้องเสียเมื่อภาษีรถขาดเกินกำหนด
1. ขาดต่อภาษีรถยนต์ 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี
หากรถยนต์ของคุณขาดต่อภาษีไม่เกิน 3 ปี คุณยังสามารถต่อภาษีได้โดยไม่ต้องทำการจดทะเบียนใหม่ แต่จะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมาย โดยค่าปรับจะถูกคำนวณจากจำนวนวันที่ขาดต่อภาษี และมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน
2. กรณีขาดต่อทะเบียนเกิน 3 ปี ต้องทำการขอทะเบียนใหม่
หากรถยนต์ขาดต่อภาษีเกิน 3 ปี รถจะถูกยกเลิกทะเบียนโดยอัตโนมัติ คุณจะต้องทำการขอจดทะเบียนใหม่ ซึ่งขั้นตอนจะยุ่งยากกว่าเดิม เนื่องจากต้องมีการตรวจสภาพรถและเตรียมเอกสารเพิ่มเติม
เอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อขาดต่อภาษีรถยนต์
เมื่อขาดต่อภาษีรถยนต์แล้ว การเตรียมเอกสารที่ครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญในการต่อภาษีรถยนต์ โดยเอกสารที่ต้องเตรียมจะแตกต่างกันไปตามกรณี
1. กรณีการต่อทะเบียนปกติ
- ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (เล่มทะเบียนรถ)
- บัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถ
- ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีรถยนต์ (ในกรณีที่ต่อภาษีล่วงหน้า)
- ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (ถ้ารถยนต์มีอายุเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์มีอายุเกิน 5 ปี)
- เอกสารประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
2. กรณีทะเบียนขาดเกิน 3 ปี ต้องใช้เอกสารในการขอทะเบียนใหม่
- ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (เล่มทะเบียนรถ)
- บัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถ
- ใบเสร็จรับเงินค่าภาษีรถยนต์ย้อนหลัง
- ใบรับรองการตรวจสภาพรถ
- เอกสารประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
- ใบอนุญาตขับรถของเจ้าของรถ
ค่าใช้จ่ายต่อทะเบียนรถใหม่มีอะไรบ้าง?
หากรถยนต์ทะเบียนขาดเกิน 3 ปี การต่อทะเบียนใหม่จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนี้
1. ค่าธรรมเนียม ประกอบด้วย
- ค่าจดทะเบียนรถใหม่: 315 บาท
- ค่าสมุดจดทะเบียนรถ: 100 บาท
- ค่าแผ่นป้ายทะเบียน: 100 บาท
- ค่าหลักฐานการประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535: ตามอัตราที่กำหนด
- ค่าภาษีของรถแต่ละประเภท: ตามอัตราที่กำหนด
2. ค่าธรรมเนียมตรวจสภาพ แบ่งออกเป็น
- รถยนต์: 50 บาท
- รถจักรยานยนต์: 10 บาท
ช่องทางสำหรับยื่นชำระภาษีรถยนต์
การชำระภาษีรถยนต์สามารถทำได้หลายช่องทาง โดยคุณสามารถเลือกได้ตามความสะดวกสบายและความรวดเร็ว เช่น
1. กรมการขนส่งทางบก
คุณสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ที่สำนักงานกรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่จังหวัดที่จดทะเบียนรถยนต์ โดยสามารถเช็คแผนที่ได้ที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก
2. สำนักงานขนส่งทั่วไทย
ไม่ว่ารถยนต์คันนั้นจะจดป้ายทะเบียนไว้ที่จังหวัดใดก็ตาม ก็สามารถยื่นเอกสารเพื่อต่อภาษีได้ทุกพื้นที่
3. เลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)
บริการนี้ช่วยให้คุณสามารถต่อภาษีรถยนต์ได้โดยไม่ต้องลงจากรถ เพียงแค่ขับรถเข้ามาที่จุดบริการแล้วรอรับเอกสาร
4. ตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk)
โดยตู้รับชำระภาษีอัตโนมัติเปิดให้บริการที่สำนักงานขนส่งบางแห่ง คุณสามารถใช้บริการนี้ได้โดยกรอกข้อมูลและชำระเงินผ่านตู้
5. ที่ทำการไปรษณีย์
สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ มีค่าธรรมเนียมการชำระ 40 บาท โดยตัวป้ายภาษีจะถูกส่งไปยังที่อยู่ที่คุณระบุเอาไว้
6. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
7. ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ‘ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี’ (Shop Thru for Tax)
8. เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ
บริการนี้เหมาะสำหรับรถยนต์ที่อายุไม่เกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่อายุไม่เกิน 5 ปี ตัวป้ายภาษีจะส่งตามมาทีหลังตามชื่อที่อยู่ที่ระบุไว้ มีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 20 บาท และค่าจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์เพิ่มอีก 40 บาท
9. แอปพลิเคชัน mPay และ TrueMoney Wallet
10. เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก
คุณสามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกที่ https://eservice.dlt.go.th/ หรือผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax
การลืมต่อภาษีรถยนต์เป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่หากขาดต่อภาษีรถยนต์เกิน 3 ปี สิ่งที่ต้องทำคือการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและดำเนินการจดทะเบียนใหม่ตามขั้นตอนที่กำหนด และอย่าลืมว่าการต่อภาษีรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อความปลอดภัยต่อการใช้รถยนต์บนท้องถนนและความสะดวกในการขับขี่ของคุณในอนาคต นอกจากนี้ ช่องทางการต่อภาษียังมีหลากหลายช่องทาง เสาร์-อาทิตย์ก็ต่อได้ อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุของภาษีรถยนต์และต่ออายุให้ทันเวลาทุกปี เพื่อป้องกันปัญหาความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
สำหรับใครที่กำลังมองหาพ.ร.บ. รถยนต์ หรือประกันรถยนต์สำหรับการป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+, 3+, 2, 3 ที่เคลมได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ก็อย่าลืมเลือกประกันที่ครอบคลุมและคุ้มค่าจากบริษัทที่น่าเชื่อถืออย่าง ไดเร็ค เอเชีย ซึ่งมีโปรโมชันและส่วนลดพิเศษที่ช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ดีที่สุดในราคาที่เหมาะสม
สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.directasia.co.th/ หรือโทร. 02-767-7777
แหล่งอ้างอิง
- กรมการขนส่งทางบก, https://eservice.dlt.go.th/esvapp/esv/ebk/condition/index.jsf
- สำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก (สนภ.) กรมการขนส่งทางบก, https://safedrivedlt.com/ชำระภาษีรถออนไลน์/