ขับไปหาวไป ไม่ใช่เรื่องดี กะพริบตาถี่ ๆ นี่ก็เป็นสัญญาณเสี่ยงหลับในได้เหมือนกัน แม้ว่าเราจะเตรียมความพร้อมขับรถช่วงกลางคืนให้ปลอดภัยมากเป็นพิเศษ แต่ความระมัดระวังในการลดอุบัติเหตุต้องถูกดึงมาใช้อยู่ตลอดเวลา และทันทีที่ได้รับบทบาท “คนขับ” ต้องรู้ทันความง่วงก่อนเป็นคนแรก! เพื่อเป็นการป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน DirectAsia มีวิธีแก้ง่วงตอนขับรถมาฝากกัน ตามนี้
10 วิธีแก้ง่วงตอนขับรถ เดินทางปลอดภัย ไม่ไหวอย่าฝืน!
1. แวะซื้อกาแฟ สายคาเฟอีนทั้งหลายคงไม่พลาดซื้อกาแฟติดรถไว้ตลอดเส้นทาง แต่หากเจอทริปขับรถระยะทางยาว ๆ ไกล ๆ กาแฟอีกสักแก้วคงเป็นสิ่งชูใจยามสายตาอ่อนล้าได้เป็นอย่างดี หรือสำหรับใครที่ไม่ถนัดรสชาติเข้มข้นของกาแฟ ลองหาเครื่องดื่มเย็น ๆ ช่วยกระตุ้นความสดชื่นระหว่างขับรถ อย่างชามะนาว น้ำแดง และน้ำส้มก็ย่อมได้
2. เครื่องดื่มชูกำลัง อีกสูตรสายแข็งที่ช่วยดึงหนังตาได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นวิธีแก้ง่วงที่นิยมใช้หลาย ๆ วงการ ทั้งตอนเรียน ตอนทำงาน และตอนขับรถ โดยแนะนำให้ดื่มหากรู้สึกว่าฤทธิ์ของกาแฟไม่สามารถทำอะไรได้จริง ๆ หรือต้องการปลุกร่างกายให้ตื่นตัวขึ้นอีกนิด เครื่องดื่มชูกำลังช่วยคุณได้แน่นอน
3. เคี้ยวหมากฝรั่ง นอกจากการจิบเครื่องดื่มเรื่อย ๆ ตลอดทาง อีกวิธีแก้ง่วงเวลาขับรถที่หลายคนอาจมองข้าม คือการหากิจกรรมให้ปากไม่ว่างด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งนั่นเอง เพราะการเคี้ยวจะช่วยกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนเลือดบนใบหน้าและลำคอทำงานมากขึ้น และไหลเวียนไปถึงสมอง ส่งผลให้สมองตื่นตัวและทำงานได้ดี ใครกำลังมีทริปขับรถออกต่างจังหวัดลองใช้ทริคเคี้ยวหมากฝรั่งกันได้เลย
4. กินขนม/ ผลไม้รสเปรี้ยว ยืนหนึ่งเรื่องขับรถเพราะไม่มีคนช่วยสลับขับเปลี่ยนตัวแทน แถมตาก็เริ่มไม่สู้แอร์เข้าไปอีก ขับรถง่วงนอน กินอะไรดี… ลองจอดแวะซื้อขนมขบเคี้ยว นม หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวติดรถไว้ทานขณะขับรถ รับรองว่าปรี๊ดตาตื่นมีแรงขับดีขึ้นแน่ๆ ที่สำคัญอย่ากินหนักจนอิ่ม เพราะเมื่อเราอิ่มร่างกายจะหลั่งสารเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งส่งผลให้เรารู้สึกง่วงได้ในที่สุด
5. ล้างหน้าล้างตา หรือใช้ผ้าเย็นประคบ ขับรถยังไงไม่ให้ง่วง ลองนำผ้าเย็นมาประคบที่ต้นคอหรือหน้าผากช่วยได้ เพราะการที่เรารู้สึกง่วงหรือหนักตา แก้ได้โดยการหาความสดชื่นให้ร่างกาย ซึ่งนอกจากเครื่องดื่มที่มีผลช่วยกระตุ้นจากภายใน การล้างหน้าให้สดชื่น หรือใช้ผ้าเย็นยังเป็นการปลุกร่างกายให้ตื่นจากภายนอกเช่นกัน
6. เปิดเพลงกระตุ้นประสาท เพลงดัง ๆ จังหวะเร็ว ๆ จะช่วยปลุก (ปั่น) ประสาทหู ซึ่งส่งตรงไปยังสมองให้ตื่นตัวขึ้นได้ โดยเราขอแนะนำแนวเพลง Rock, Disco, EDM หรือแนว Trance ซาวด์ดนตรีที่พร้อมทำให้คุณเผลอโยกตัวตาม และอาจเป็นวิธีแก้ง่วงตอนขับรถที่เห็นผลดียิ่งขึ้นเมื่อเราฮัมเพลงหรือส่งเสียงร้องตามเพลงออกมาด้วย
7. ฟังเรื่องผี กลายเป็นวิธีแก้ง่วงเวลาขับรถที่โดนใจใครหลายคน สำหรับการฟังเพลย์ลิสต์เรื่องผีที่รวมฮิตความหลอน ซึ่งเหมาะมากกับคนที่ขับรถเดินทางคนเดียว การฟังเรื่องเล่าต่าง ๆ จะทำให้เราได้เพลิดเพลินกับการขับรถมากขึ้น ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการฟังจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืนนั้น คงต้องยกให้เป็นเรื่องของความแข็งแกร่งทางใจของแต่ละบุคคล
8. ยืดเหยียดคลายเส้น หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกง่วง ตาล้าอยู่ตลอดเวลา ยังมาจากการนั่งขับรถเป็นเวลานานเกิน การนั่งอยู่ในท่าเดิม ๆ ไม่ได้ขยับเป็นเวลานาน ทำให้สมองทำงานช้าลงและเข้าใกล้ความง่วงมากขึ้น การแวะจอดรถและลงมายืดเส้นยืดสาย เดินเล่นนิดหน่อยจึงเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว ทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานทั้งสายตา และสมองด้วยนั่นเอง
9. ยาดม ยานวด อย่างที่เกริ่นไปในช่วงแรกว่าการกระตุ้นให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว เราสามารถทำได้ทั้งการกระตุ้นจากภายในและภายนอก ซึ่งนอกจากการกระตุ้นผ่านเครื่องดื่มที่ให้ความรู้สึกสดชื่น หรือขนมรสจี๊ดๆ การสูดดมยาดมก็เป็นวิธีแก้ง่วงตอนขับรถที่ได้ผลดีไม่แพ้กัน รวมถึงการนวดคลึงบริเวณต้นคอเมื่อรู้สึกเมื่อยล้า อ่อนเพลีย เพื่อคลายเส้นคลายกล้ามเนื้อก็ช่วยให้เราสามารถขับรถต่อได้อย่างสบาย ๆ เช่นกัน
10. พักงีบ/จอดนอนหลับ หากง่วงมากไป “ไม่ไหวอย่าฝืน” เชื่อว่าเราทุกคนต่างรู้ตัวเองดีเกี่ยวกับขีดจำกัดร่างกายของตัวเองว่ามีความพร้อมแค่ไหน ไปต่อได้หรือควรแวะพักก่อน โดยเฉพาะคนที่ต้องขับรถทางไกลแล้วไม่สามารถหายง่วงได้ด้วยวิธีต่าง ๆ ที่กล่าวมาในข้างต้น การจอดพักรถ พักคน คือวิธีแก้ง่วงตอนขับรถที่ดีและปลอดภัยที่สุด ลองตั้งนาฬิกาปลุกให้พักสายตาตามเหมาะสมแล้วค่อยเดินทางกันต่อก็ยังไม่สาย!
ก่อนขับรถทุกครั้งเราจึงควรพักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่ รวมถึงเตรียมความพร้อมของรถยนต์ ทั้งแบตเตอรี่ น้ำมันเบรก-น้ำมันเครื่อง ช่วงล่าง ล้อรถให้พร้อมใช้งาน เพราะแม้เราจะมีวิธีแก้ง่วงตอนขับรถมากมายหลายอย่าง แต่ดีที่สุดคือการขับขี่อย่างมีสติ เพื่อให้เราและคนที่รักเดินทางอย่างปลอดภัย พร้อมพกความอุ่นใจไปได้ไกลกว่า… ด้วยแผนประกันภัยรถยนต์ที่ใช่ และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในทุก ๆ การขับขี่โดย DirectAsia ประกันที่พร้อมอยู่เคียงข้างคุณในทุกทริปการเดินทาง
บทความที่เกี่ยวข้อง
– Top 5 รถกระบะใหม่น่าขับ 2023 งบน้อยก็ถอยได้
– ออกรถใหม่ ควรทำ! กับ 5 ความเชื่อเสริมสิริมงคล
– สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด สีรถตามวันเกิดจากหมอช้าง
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 0-2767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th
