สำหรับคนรักรถยนต์แล้ว นอกเหนือจากการบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ อีกสิ่งที่คนเหล่านี้จะให้ความใส่ใจเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นการทำสีรถยนต์ เพราะสีของรถยนต์ที่สวยงาม มีสีสม่ำเสมอรอบคัน ช่วยทำให้รถคันนั้น ๆ ดูน่าประทับใจไม่น้อยเลย และยังสร้างความภูมิฐานให้กับเจ้าของรถอีกด้วย
ในเมื่อการทำสีรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญ ‘ไดเร็ค เอเชีย (DirectAsia)’ ประกันรถยนต์ คู่หูคู่ใจคนมีรถ จึงไม่พลาดขอหยิบยกเรื่องราวของการทำสีรถมาบอกเล่ากัน ซึ่งเรามีเทคนิคที่น่าทำตามหากอยากคงผลลัพธ์ของสีรถให้ดูเหมือนใหม่ไปอีกนาน จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามพร้อมกันกับเราเลย
ทำสีรถยนต์ มีให้เลือกทำกี่แบบ
สีที่นำมาใช้ทำสีรถยนต์นั้นจะต้องเป็นสีสำหรับพ่นกับพื้นผิวรถยนต์โดยเฉพาะ เพื่อให้ผลลัพธ์ของสีอยู่ทนทาน ซึ่งประเภทของสีพ่นรถยนต์ที่มีให้บริการในท้องตลาด หลัก ๆ จะแบ่งเป็นออกเป็น 3 แบบ ได้แก่
-
OEM
สี OEM (Original Equipment Manufacturer) เป็นสีที่ใช้ในโรงงานประกอบรถยนต์ สีประเภทนี้มีคุณสมบัติเด่น คือ ทนทานต่อสารเคมีและตัวทำละลาย ทำให้สีที่ได้หลังนำมาพ่นสีรถยนต์มีความเงางาม นอกจากนี้ยังมีชั้นฟิล์มที่ค่อนข้างแข็งแรง สีจึงติดทนยาวนาน ไม่ซีดจางไว แม้จะเจอมลภาวะ แดด ความชื้น หรือฝุ่นละอองมากระทบกับตัวรถก็ตาม
-
1K
ถัดมาคือสีประเภท 1K เป็นสีที่มีคุณสมบัติ Single-Component นิยมนำมาใช้พ่นที่ตัวรถหลังจากผสมสีพื้นที่จะทาเป็นสีรถยนต์แล้ว เพื่อเพิ่มผลลัพธ์ให้สีที่ได้ดูสวยงามยิ่งขึ้น เนื่องจากสี 1K แห้งเร็ว และไม่ทนทานต่อสารเคมีที่มีความเป็นกรด-ด่าง แสงแดด ความชื้นในอากาศ ไอทะเล ฯลฯ จึงทำให้ต้องพ่นทับ 3 – 4 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสีที่นำมาพ่นตัวถังรถยนต์
ทั้งนี้แม้สีประเภท 1K จะมีข้อดีคือแห้งไว ไม่ต้องเสียเวลารอนานหลังพ่นสีลงไป แต่ข้อเสียที่มาพร้อมกันก็คือ มีส่วนผสมบางอย่างที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
-
2K
สี 2K คือสีสำหรับพ่นรถยนต์ที่มีส่วนประกอบของสาร 2 ส่วน หรือ Two-Component คือ Base Coat และ Clear Coat ทำให้สี 2K มีความทนทานต่อสารเคมี รวมถึงทินเนอร์ น้ำมันเบรก ความชื้น และแสงแดดอย่างมาก พ่นเพียง 1 – 2 ครั้งก็ได้สีที่มีความใกล้เคียงกับของเดิม อีกทั้งยังแลดูสวยเงางามอีกด้วย
เทคนิคการดูแลสีรถหลังทำสีรถยนต์มาใหม่
ภายหลังการทำสีรถยนต์จนออกมาสวยงามโดนใจแล้ว การดูแลรักษาอย่างถูกต้องก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อช่วยคงคุณภาพของสีที่ทำมา ให้อยู่คู่รถของเราไปอีกนาน โดยมีวิธีง่าย ๆ ในการบำรุงรักษาสีของรถยนต์ ดังนี้
- เมื่อจอดรถทิ้งไว้ควรมีการใช้ผ้าคลุมมาคลุมตัวรถ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองมาเกาะสีรถ รวมถึงมีการทำความสะอาดรถอย่างสม่ำเสมอด้วยไม้ปัดขนไก่ หรือนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดทำความสะอาดก็ได้
- หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้ง หรือนำรถไปตากแดดเป็นเวลานาน แนะนำให้เลือกจอดรถในโรงรถหรือบริเวณที่มีหลังคาหรือร่มเงาจะดีกว่า เพื่อป้องกันแสงแดดมากระทบกับผิวของรถโดยตรง
- ระวังไม่ให้สารเคมีมาโดนตัวรถ เช่น ทินเนอร์ น้ำมันเบรก สเปรย์ ขี้นก ฯลฯ เพราะสิ่งเหล่านี้มีฤทธิ์เป็นกรด อาจทำให้พื้นผิวของรถรวมถึงสีที่พ่นเสียหายได้
- หากมีรอยขูด ขีด หรือมีจุดที่สีหลุดล่อน ควรรีบซ่อมแซมด้วยการแต้มสีทับในบริเวณเหล่านั้นโดยเร็ว เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสนิมตามมา
- ทุกครั้งที่มีการล้างทำความสะอาดรถ ไม่ควรปล่อยให้น้ำแห้งเอง ควรรีบหาผ้ามาเช็ดทำความสะอาด เนื่องจากอาจเกิดคราบด่าง จนกลายเป็นรอยที่ติดฝังอยู่บนสีและกระจกของรถยนต์ได้
การทำสีรถยนต์เป็นงานที่ค่อนข้างเฉพาะทาง จำเป็นต้องใช้ทักษะ สี และอุปกรณ์ที่มีคุณภาพในการทำ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้บริการช่างที่ไว้ใจได้ เพื่อผลลัพธ์ของสีรถยนต์ที่คงทน โดยหน้าที่สำคัญของเจ้าของรถอย่างเราก็คือ การบำรุงรักษาสีรถให้ดูดีไปอีกนาน โดยสามารถเลือกทำตามวิธีที่ไดเร็ค เอเชีย ได้รวบรวมมาแนะนำไว้ให้ด้านบนก็ได้ รับรองว่าทำตามง่าย ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน
นอกจากสีของรถที่ต้องดูแลอย่างเชี่ยวชาญแล้ว เรื่องของประกันรถยนต์ก็เช่นกัน ควรมีการดูแล ให้คำแนะนำและความคุ้มครองโดยผู้เชี่ยวชาญ อย่างที่ไดเร็ค เอเชีย เราเปิดให้คุณสามารถเลือกปรับเปลี่ยนความคุ้มครองได้ตามสไตล์การขับขี่ไปจนถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เมื่อซื้อประกันรถยนต์กับเรา ไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 แถม ผ่อนสบาย ๆ 0% นาน 10 เดือน ไม่มีบัตรก็ผ่อนได้ ซื้อวันนี้ฟรี บัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ด่วนจำนวนจำกัด!
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ขอบคุณข้อมูลจาก: Youtube เห็นหมีมั๊ย
บทความที่เกี่ยวข้อง
- เปิดคุณสมบัติ ระบบช่วยขับขี่ ที่บอกว่าดีจ้อจี้หรือจริง?
- แนะนำ ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ช่วยลดความร้อนในหน้าร้อน
- ทำสีรถเฉพาะจุดหรือทั้งคันดี แบบไหนที่ประกันจะรับเคลม ?
หากสนใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงด้าน ประกันรถยนต์ โทรฯ 02 767 7777 หรือสามารถศึกษาข้อมูลโดยละเอียด พร้อม เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ทั้ง ประกันชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 ได้ที่ https://www.directasia.co.th/
