What can we help you with?

ใช้แผนที่และการนำผ่านแอป Maps บนสมาร์ทโฟน Android

แอปแผนที่ Maps บนสมาร์ทโฟน Android

ผมติดตามความเคลื่อนไหวและใช้งานอุปกรณ์ Android ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ตอนนั้น Android ยังอิงอยู่กับค่าย HTC และมาบูมเอาตอนที่มาเป็นพันธมิตรกับค่าย Samsung ในรุ่น Galaxy S ที่เกริ่นถึงสมาร์ทโฟนและระบบปฏิบัติการ Android ไม่ใช่ว่าเขียนรีวิวโทรศัพท์แต่อย่างใด

Google Maps

ที่อยากจะคุยก็คือ เรื่องของแอปพลิเคชันแผนที่บน Android ที่ชื่อว่า Maps แอป Maps มีการพัฒนาต่อเนื่องคู่กับระบบปฏิบัติการ Android มาโดยตลอดเพราะเป็นบริการของ Google เอง มีการพัฒนาตั้งแต่เรื่องของการแสดงผลที่ละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ มีมุมมองแบบ 3 มิติให้ใช้งาน มีการทำงานร่วมกับ Latitude หรือบริการแชร์ตำแหน่ง มีการทำงานร่วมกับ Place หรือการค้นหาสถานที่ สามารถดูแผนที่แบบออฟไลน์ได้ เมื่อไม่นานมานี้ก็เปิดให้ใช้งานบริการใหม่ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากขึ้นมาอีกคือ Google Street View ซึ่งบริการนี้นับว่าสนใจมากทีเดียว (เอาไว้จะเขียนบทความคุยถึงบริการนี้สักหน่อย) และล่าสุดบริการที่ผมรอคอยมานานก็ใช้ในเมืองไทยได้แล้วนั่นคือ Navigator บริการนี้ไม่ใช่บริการใหม่เสียทีเดียว ในต่างประเทศใช้ได้นานแล้ว แต่ในบ้านเราเพิ่งใช้ได้เมื่อไม่นานมานี้นี่เอง

ความน่าสนใจของ Navigator ก็คือ การที่มีเสียงนำทาง คอยบอกเราว่าอีกกี่ร้อยเมตรเลี้ยวซ้าย อีกกี่ร้อยเมตรเลี้ยวขวา ตรงไปเป็นระยะทางเท่าไรเหมือนกับ GPS ในรถยนต์ ปกติแอป Maps สามารถนำทางได้อยู่แล้ว สามารถขอเส้นทางได้ แต่จะไม่มีเสียงคอยบอก ผู้ใช้ต้องคอยมองหน้าจอเพื่อดูเส้นทางเอาเอง การที่มี Navigation หรือเสียงนำทางทำให้ผู้ที่ใช้งาน Android สามารถใช้งานแอป Maps ได้เต็มประสิทธิภาพและสะดวกมากยิ่งขึ้น

ผมเห็นว่าเดี๋ยวนี้ผู้ใช้รถจำนวนไม่น้อยต่างก็มีสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ใช้งานกันอยู่แล้ว จึงอยากจะแนะนำให้ใช้งานกันดู เผื่อว่าใครที่ยังไม่รู้ว่าแอป Maps สามารถใช้งานแบบนี้ได้แล้ว หากกำลังคิดว่าจะไปซื้อหา GPS มาติดรถจะได้ทดลองใช้แอป Maps ดูก่อน หากใช้แล้วรู้สึกว่าใช้งานได้ดีจะได้ไม่ต้องไปซื้อ GPS ให้เสียเงิน ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วให้คุ้มค่าดีกว่า

เพื่อความสะดวกในการใช้งานก็อย่าลืมหาซื้อ Holder หรือขาตั้งโทรศัพท์ในรถยนต์มาใช้ด้วยล่ะครับ ขาตั้งก็มีทั้งแบบที่ติดกับคอนโซลและติดกับกระจก วิธีเลือกว่าจะใช้แบบไหนก็พิจารณาพื้นที่หรือลักษณะของห้องโดยสารของรถด้วยว่าติดตั้งแบบไหนถึงจะเหมาะสมและไม่บดบังทัศวิสัย และพื่อให้คุณสามารถใช้งานแอป Maps และคุณสมบัติอื่นๆ ของสมาร์ทโฟนได้ตลอดทั้งวันหรือตลอดการเดินทาง ก็อย่าลืมหาอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ในรถยนต์หรือแบตสำรอง (Power Bank) ติดรถติดตัวไว้ด้วย

อีกสิ่งที่สำคัญมากๆ คือ ถ้าจะใช้งานแอป Maps ในการนำทางจำเป็นที่จะต้องเปิดใช้บริการ 3G ถ้าปกติคุณไม่ได้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนสักเท่าไร เล่นผ่าน Wi-Fi ที่บ้านมากกว่า การใช้บริการ 3G สำหรับแอป Maps ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แพ็กเกจที่สูงมาก หรือจะใช้แบบเสียค่าบริการตามการใช้ข้อมูลหรือตามเวลาก็น่าจะเพียงพอ

นอกจากใช้งานแอป Maps แล้ว สามารถใช้สมาร์ทโฟนของคุณเข้าไปดูข้อมูลประกันภัยของ DirectAsia.com ผ่านแอป Internet โดยเข้าไปที่ https://www.directasia.co.th/ ได้ด้วยนะครับ