มีนาแล้ว! มีสติก่อนสตาร์ท
ระหว่างขับรถหลายคนก็อาจเผลอทำพฤติกรรมเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นเพราะความเคยชินหรือคิดว่าถึงทำก็ไม่เกิดอุบัติเหตุ วันนี้ DirectAsia อยากชวนคุณมาเช็กลิสต์พฤติกรรมการขับขี่ มาดูกันว่าใน 5 อันดับนี้คุณมีพฤติกรรมเสี่ยงแบบไหนบ้าง?
1. เปลี่ยนเลนกะทันหัน
หรือที่เรียกว่า “ปาดหน้า” เป็นพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงอุบัติเหตุมากที่สุด เพราะรถคันหลังอาจเบรกไม่ทันหรือต้องแตะเบรกกะทันหันซึ่งอาจทำให้รถที่ตามมาชนท้าย หรือเสียหลัก และอาจทำให้เกิดความสูญเสียตามมา
2. ใช้มือถือขณะขับรถ
การละสายตาเพียงไม่กี่วินาทีอาจเกิดเรื่องไม่คาดคิดได้ เพราะขณะที่ก้มลงดูหน้าจอมือถือรถคันหน้าอาจจะเบรกทำให้เราเบรกรถกะทันหัน หรือการคุยโทรศัพท์ที่จดจ่ออยู่กับการคุยมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดการตัดสินใจไม่ทันการเมื่อมีเหตุคับขัน
3. ขับจี้ท้ายคันหน้า
หากมีเหตุให้ต้องเบรกขึ้นมา รถที่ตามมาก็อาจเบรกไม่ทันจนเกิดอุบัติเหตุได้ ควรเว้นระยะห่างจากคันหน้าประมาณ 60 เมตรจะอยู่ในระดับที่ปลอดภัยมากขึ้น
4. ง่วงนอน เครียด มึนเมา
อาการเหล่านี้ล้วนทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง ฉะนั้นการพักผ่อนเพียงพอ ดูแลตัวเองให้ไม่เครียด และเตรียมความพร้อมร่างกายให้ดีอยู่เสมอจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้
5. วางขวดน้ำไม่เป็นที่
การวางขวดน้ำไม่เป็นที่แล้วขวดน้ำกลิ้งไปติดใต้เบรกอาจทำให้ไม่สามารถเหยียบเบรกได้และเกิดอุบัติเหตุตามมา และอีกสิ่งที่ไม่ควรทำคือ การก้มไปเก็บขวดน้ำใต้เบาะขณะขับรถซึ่งอาจทำให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นได้เช่นกัน
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติแบบไม่คาดคิด
-
มีสิ่งกีดขวางบนถนน
อุบัติเหตุมากมายเกิดขึ้นจากความประมาทหรือความเห็นแก่ตัวของผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันที่ไม่ได้ขับรถ เช่น การก่อสร้างริมถนนหรือการวางวัสดุอุปกรณ์ไว้บนถนนโดยไม่มีสัญญาณเตือน อาจทำให้รถที่ขับผ่านมามองไม่เห็นและขับเข้ามาชน หรือเหยียบสิ่งกีดขวางจนเสียหลักกลายเป็นอุบัติเหตุได้
-
ทัศนวิสัยไม่ดี
สภาพภูมิอากาศก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ การที่ฝนตก หรือมีหมอกหนาในบางพื้นที่อาจทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ยากลำบาก แต่หากเราไม่ดูแลสภาพรถให้พร้อมอุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นจนได้
-
รถไม่พร้อมใช้งาน
สภาพรถควรตรวจเช็กให้พร้อมใช้งาน บางคนละเลยขาดความสนใจดูแลเอาใจใส่รถ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรหมั่นตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมใช้งานเสมอ เพราะรถไม่พร้อมใช้งานก็ไม่ต่างอะไรกับการละเลยชีวิตตัวเองเช่นกัน
-
เส้นทางและเครื่องหมายสัญญาณ
เช่น บริเวณทางแยก, ทางโค้ง, ทางชำรุด, เครื่องหมายสัญญาณชำรุด, ไม่มีอุปกรณ์จราจรเพื่อช่วยในการขับขี่
-
สภาพถนนและสภาพแสงสว่าง
บริเวณทางแยก ทางโค้ง ทางตรง ทางเบี่ยงสะพาน วงเวียน ทางตัดทางรถไฟ ทางลาดชัน/เนินเขา ทางเชื่อม ทางแยก ทางเชื่อมอาคารที่พักอาศัย สภาพถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ มีโคลนตม ถนนที่แคบหรือถนนที่ลื่น มีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ และแสงสว่างที่ส่องจากรถคันที่สวนมาโดยการเปิดไฟสูงและมีความสว่างสูงทำให้ตามัวอาจมองไม่ชัดเจนซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดเช่นเดียวกัน
การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุ และการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ทำให้อัตราความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุก็จะลดลงจนแทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้น DirectAsia ขอให้คุณ ขับขี่รถอย่างปลอดภัย มีสติ และไม่มีอุบัติเหตุ และจะดีแค่ไหนถ้าคุณมีประกันรถยนต์ที่ช่วยดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนจบเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ด้วยประกันรถยนต์ชั้น 1 / ประกันรถยนต์ชั้น 1 เซฟ / ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ส่วนใครที่อยากได้คำแนะนำและผู้ช่วยดี ๆ เรื่องประกันภัยรถยนต์ให้นึกถึง DirectAsia ได้ทันที
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th