เดินหน้าเข้าสู่หน้าร้อนอย่างจริงจัง นอกจากจะต้องระมัดระวังสุขภาพจากสภาพอากาศร้อนระอุที่เกิดขึ้นแล้ว ความร้อน(จัดๆ)ยังสะเทือนไปถึงสุขภาพของรถยนต์คู่ใจ โดยเฉพาะในวันที่ต้องจอดรถตากแดดไว้นานๆ แถมมีสิ่งของห้ามไว้ในรถ ที่หากปล่อยให้โดนความร้อนนานๆ ยิ่งเสี่ยงเกิดความเสียหายได้อย่างไม่คาดคิด!
5 สิ่งของห้ามไว้ในรถ หยุดพกติดรถช่วงหน้าร้อน
แม้จะเป็นอุณหภูมิความร้อนที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ยิ่งมากยิ่งดี… อาจใช้กับความร้อนอบอ้าวของเมืองไทยไม่ได้ ยิ่งอุณหภูมิภายในรถที่ต้องจอดตากแดดไว้นานๆ จนคล้ายจะกลายเป็นเตาอบขนาดย่อม เมื่อมีสิ่งของ(ต้อง)ห้ามไว้ในรถที่ทนความร้อนไม่ได้นาน หรือไม่แม้กระทั่งอยู่ใกล้ความร้อนเลย จึงอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันและอุบัติเหตุอันตรายขึ้นได้ ว่าแต่จะมีสิ่งของอะไรบ้าง เตรียมเซฟลิสต์สิ่งของต้องห้ามไว้ในรถกันได้เลย
1.ขวดสเปรย์
การพกสเปรย์กระป๋องเป็นของห้ามมีในรถ และต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงที่สภาพอากาศไต่ระดับความร้อนอย่างต่อเนื่อง เพราะขวดสเปรย์โดนความร้อนอยู่เรื่อยๆ จะทำให้เกิดแรงดันและประกายไฟขึ้นได้ ซึ่งอันตรายเป็นอย่างมาก
2.ไฟแช็ก
สายควัน อาจไม่พลาดไอเท็มเด็ดติดไว้ในรถให้หายาก ส่วนใครที่บังเอิญต้องซื้อไว้หรือมีติดไว้ในโอกาสต่างๆ ต้องหมั่นเช็กของห้ามไว้ในรถอย่างไฟแช็กไว้ให้ดี เพราะสารเคมีกับความร้อนอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาต่างๆ ได้ เช่น ประกายไฟ และสารเคมีรั่วไหล ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟและสิ่งปนเปื้อนในรถต่อไปได้นั่นเอง
3.Power bank
ไอเท็มต้องมีของคนยุคนี้ที่ขาดไม่ได้ แต่อาจเผลอวางทิ้งไว้ในรถได้โดยไม่รู้ตัวอย่างพาวเวอร์แบงค์ ถือเป็นสิ่งของห้ามไว้ในรถอันดับต้นๆ เช่นเดียวกันกับการพกพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องบิน เพราะเสี่ยงเกิดไฟฟ้าลัดวงจรจากความร้อนที่สะสมมากจนเกินไป ยิ่งในสถานการณ์ความร้อนที่ฉิวเฉียด 40 องศา อยู่บ่อยๆ ยิ่งต้องคอยแยกสิ่งของเหล่านี้ให้ห่างจากความร้อนให้มากที่สุด
4.โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่
สิ่งของห้ามมีไว้ในรถและควรเก็บไว้ให้ห่างจากรถอีกอย่าง คืออุปกรณ์ไอที เช่น Smartphone, Tablet และ Notebook ซึ่งมักเป็นอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่พ่วงติดอยู่ เสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟหรือระเบิดจากไฟฟ้าลัดวงจรได้นั่นเอง
5.ขวดน้ำและอาหาร
ของห้ามไว้ในรถช่วงหน้าร้อนเพราะอาจเสี่ยงก่อโรคและปัญหาสุขภาพขึ้นได้ คือเชื้อจุลินทรีย์ที่เติบโตได้ง่ายในเครื่องดื่มที่เปิดแล้วแต่กินไม่หมด รวมถึงอาหารและขนมที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียอย่างดี ซึ่งหากรับประทานเข้าไปอาจเกิดอาหารเป็นพิษ หรือเสี่ยงป่วยเพราะเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ได้เช่นกัน
ขวดน้ำ แอลกอฮอล์ ทำรถไฟไหม้ได้จริงไหม ?
เซฟลิสต์สิ่งของต้องห้ามไว้ในรถกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายคนคงมีคำถามในใจจากข่าวคราวที่ว่ากันว่า หากทิ้งขวดน้ำและแอลกอฮอล์ไว้ในรถนานๆ อาจทำให้รถระเบิดหรือไฟไหม้ได้ วันนี้ DirectAsia มีคำตอบมาให้เพื่อเคลียร์ทุกข้อสงสัย ดังนี้
- วางขวดน้ำไว้ในรถ มีโอกาสเกิดไฟไหม้ได้จริงหากมีสิ่งกระตุ้นเพียงพอ เพราะขวดน้ำพลาสติกสามารถทำตัวเหมือนเป็นเลนส์รวมแสง ซึ่งหากอยู่ในจุดที่แสงอาทิตย์ส่องถึง บวกกับตำแหน่งรวมแสงที่อยู่ใกล้กับวัสดุที่อาจเป็นเชื้อเพลิงไหม้ไฟได้ ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้เช่นกัน แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยาก แต่สิ่งที่เราพบเห็นได้บ่อยคืออุบัติเหตุจากขวดน้ำเข้าไปขัดคันเร่ง หรือเบรคจนเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้
- วางแอลกอฮอล์ไว้ในรถ ความร้อนอย่างเดียวไม่สามารถทำให้แอลกอฮอล์ติดไฟได้ เพราะแอลกอฮอล์จะติดไฟก็ต่อเมื่อมีประกายไฟเกิดขึ้นเท่านั้น แต่แม้จะเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นได้หากมีการกระตุ้น ก็ควรลดความเสี่ยงด้วยการเลี่ยงวางไว้ในรถตั้งแต่แรก
ทั้งนี้ทั้งนั้น เรายังสามารถทำความสะอาดรถด้วยแอลกอฮอล์ เพื่อรักษาความสะอาดและคงสภาพวัสดุภายในรถยนต์ได้ตามปกติโดยการฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ หรือใช้สบู่ผสมน้ำเปล่าชุบผ้าไมโครไฟเบอร์อย่างเบามือ รวมถึงการตรวจเช็คสภาพรถยนต์อยู่เป็นประจำ เพราะความร้อนจากภายนอกอาจส่งผลต่อเครื่องยนต์ ระบบเบรก หรือระบบอื่นๆ ที่มีการเสียดสีจากการใช้งานร่วมด้วยได้ พร้อมพกความอุ่นใจด้วยแผนประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ครอบคลุมทุกความดูแลในทุกๆ การขับขี่ พร้อมรับสิทธิ์ผ่อน 0%* 10 เดือน ทั้งบัตรเครดิต/เดบิต และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ความอุ่นใจที่พร้อมอยู่เคียงข้างคุณในทุกทริปการเดินทาง
สามารถเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายๆ คลิก
*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด
* ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
** เมื่อซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 บนเว็บไซต์เท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ไฟไหม้รถ! 10 สาเหตุที่อาจทำให้ไฟไหม้รถ
- ไฟไหม้ปั๊มน้ำมัน กับอันตรายจากไฟฟ้าสถิตย์
- จอดรถตากแดดนานๆ มีผลเสียกับรถมากกว่าที่คิด
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 0-2767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th