What can we help you with?

เตรียมพร้อม! ก่อนกลับมาใช้รถที่จอดไว้นาน เช็กอะไรบ้าง?

เช็กสภาพรถยนต์ ก่อนนำกลับมาใช้อีกครั้ง

จอดรถยนต์ทิ้งไว้นาน ๆ เราต้องดูแลรถยนต์อย่างไร

ในช่วงที่หลายคนต่างอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ แน่นอนว่าแทบจะไม่ได้ขับรถยนต์ไปไหนกันเลย แต่ทว่ารถสุดรักของเราที่ถูกจอดทิ้งไว้นาน หากกลับมาขับอีกครั้งจะต้องสังเกต และต้องดูอะไรบ้าง วันนี้พี่กู๊ดจะพาไปเช็กสภาพรถยนต์ที่ไม่ได้ขับมานาน ให้พร้อมใช้งานได้เหมือนเดิมครับ รับรองขับไปไหนก็ชัวร์

ทำความสะอาดรถยนต์

เช็กความสะอาดของรถยนต์ก่อนใช้งาน เพราะการทิ้งรถไว้นาน ๆ อาจทำให้มีไรฝุ่น หรือเชื้อราในห้องโดยสาร ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพตามมา นอกจากนี้คราบสกปรกที่เกาะบนผิวรถยังทำลายสี และผิวรถชำรุดได้ อีกทั้งพวกคราบฝุ่นเหล่านี้ยิ่งเกาะบนรถนานเท่าไร ก็จะยิ่งล้างออกยากมากเท่านั้น ดังนั้นควรล้างรถทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และอย่าลืมดูดฝุ่นภายในรถ ถอดซักพรมปูพื้นให้สะอาดครับ

ยางรถยนต์

หากไม่อยากควักเงินเปลี่ยนยางรถยนต์ทั้งชุด ควรเช็กลมยางรถยนต์ด่วนครับ เพราะในขณะที่จอดรถไว้ น้ำหนักของตัวรถยนต์ทั้งหมด จะตกสู่ยางแต่ละเส้นในจุดเดียว ทำให้โครงยางเสียรูป ไม่กลม ส่งผลให้ยางไม่คืนตัวนั่นเอง ดังนั้นก่อนการใช้รถ ควรเตรียมยางให้พร้อมเสมอโดยให้นำรถไปขับเคลื่อนที่ให้ยางได้หมุนบ้าง เมื่อถึงเวลาใช้งานจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมานั่นเอง

สำคัญ จุดสังเกตเมื่อยางรถยนต์มีปัญหา เช็กได้จากอาการสั่นเต้นของยาง และเกิดเสียงดังผิดปกติขณะขับรถยนต์ครับ

แบตเตอรี่รถยนต์

ปัญหาหลัก ๆ ของแบตเตอรี่รถยนต์เมื่อต้องจอดรถไว้นาน คือแบตรถเสื่อมสภาพ เนื่องจากแบตเตอรี่จะยังจ่ายไฟ เพื่อการทำงานต่าง ๆ ในรถ ถึงแม้จะไม่ได้ใช้รถอยู่ก็ตาม ส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็ว ดังนั้นให้เช็กสภาพแบตเตอรี่โดยก่อนการขับขี่ให้สตาร์ตรถทิ้งไว้ 10 นาที สัปดาห์ละ 2  ครั้ง จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ครับ

ของเหลวในรถยนต์

ในระหว่างที่จอดรถทิ้งไว้นั้นไม่ควรปล่อยให้ของเหลวในรถยนต์แห้ง เพราะจะทำให้อุปกรณ์บางจุดขึ้นสนิมได้ ควรเติมของเหลวให้พอดี เพื่อป้องกันการเสียหายจากจุดเล็ก ๆ รุกรามทำให้รถเสียหายหนักมากขึ้นกว่าเดิม ของเหลวในรถยนต์ที่ควรเช็กเป็นประจำได้แก่

  • น้ำมันเครื่อง
    วิธีเช็ก: จอดรถบนพื้นราบ ดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมา ใช้ผ้าสะอาดเช็ดคราบน้ำมันที่ก้านเเล้วเสียบกลับเข้าไปอีกครั้ง โดยระดับของน้ำมันเครื่องที่ดีควรอยู่ระหว่างกึ่งกลางของจุด MAX และ MIN หากต่ำกว่า MIN เครื่องยนต์จะสึกหรอเร็ว แต่ถ้าเกินจุด MAX จะทำให้เกิดการเผาไหม้ที่เกินพอดี และควรเช็กสัปดาห์ละ 1 ครั้งครับ 
    สำคัญ ควรทำหลังจากดับเครื่องยนต์มากกว่า 5 นาที
  • น้ำมันเบรก
    วิธีเช็ก: เช็กปริมาณน้ำมันเบรกได้จากกระปุกน้ำมันเบรกในห้องเครื่อง โดยระดับของน้ำมันเบรกควรอยู่ที่ MAX หากอยู่ที่ MIN ควรเติมน้ำมันเบรกให้ถึงเส้น MAX จากนั้นทำความสะอาดฝาปิด-เปิด เพื่อป้องกันฝุ่น หรือทรายเกาะบริเวณดังกล่าว 
    สำคัญ ควรเช็กอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้น้ำมันเบรกแห้งจนหมด หรือเหลือน้อย ส่งผลให้การเบรกไม่มีประสิทธิภาพ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
  • น้ำหม้อน้ำ
    วิธีเช็ก: ควรเช็กระดับน้ำในหม้อน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยให้เติมน้ำยาหล่อเย็นเพื่อป้องกันไม่ให้สนิมเกาะหม้อน้ำ 
    สำคัญ เนื่องจากการจอดรถไว้นาน อาจทำให้น้ำมันแห้ง ส่งผลให้เกิดสนิมในหม้อน้ำได้ ควรล้าง หรือเปลี่ยนถ่ายน้ำทุก ๆ 6 เดือน
  • น้ำฉีดกระจก
    วิธีเช็ก: ให้ผสมน้ำยาทำความสะอาดแบบเจือจางลงในน้ำ เพื่อเพิ่มความสะอาดขณะที่ก้านปัดน้ำฝนกำลังทำงาน และให้ตรวจเช็กระดับน้ำสัปดาห์ละ 1ครั้ง
  • น้ำกลั่นแบตเตอรี่
    วิธีเช็ก: ให้เติมน้ำกลั่นในระดับที่เหมาะสม โดยเติมทุกจุดให้ท่วมแผ่นธาตุเล็กน้อย และให้เช็กระดับน้ำสัปดาห์ละ 1ครั้ง 
    สำคัญ ทุกครั้งที่คุณเริ่มรู้สึกได้ว่าระบบไฟในรถยนต์เริ่มรวน เช่น เสียงแตรฟังดูแผ่ว ๆ ไม่ชัดเจน เป็นต้น นั่นหมายถึงอาการของแบตเตอรี่เสื่อม ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่กำลังไฟในรถของคุณจะหมดกลางทาง

เห็นไหมครับว่าการดูแลรถยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องให้เวลาใส่ใจรถของเราเล็กน้อย เพื่อลดปัญหาจุกจิกกวนใจในภายหลัง เพราะหากรถมีปัญหากลางทางอาจไม่สะดวกที่จะซ่อม ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในทุกการขับขี่อยู่เสมอนะครับ

เมื่อรถยนต์พร้อมใช้งานแล้ว มาเพิ่มความอุ่นใจติดรถไปทุกที่ด้วยประกันรถยนต์จาก ไดเร็ค เอเชีย ประกันที่คนมีรถไว้ใจ เลือกใช้ เพราะให้ความคุ้มครองสูง ในราคาประหยัด และยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินให้ ฟรี!* ต่อให้รถเสียก็โล่งใจ เพราะ ไดเร็ค เอเชีย ไปลากรถให้ถึงที่


ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องประกันภัยรถยนต์พร้อมเช็คราคา ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และประกันชั้น3 คลิกเว็บไซต์ https://www.directasia.co.th หรือสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด