สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงมาตรการการจ่ายค่าปรับผ่านระบบออนไลน์ เพื่อลดปัญหาการค้างชำระ และการฝ่าฝืนชำระค่าปรับจราจร โดยผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบใบสั่งได้แล้วบนเว็บไซต์
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตระหนักถึงปัญหาของผู้ขับขี่ ที่เจอสถานการณ์ใบสั่งหาย ลืมจ่ายค่าปรับ ไม่สะดวกเดินทางไปชำระค่าปรับ หรือใบสั่งชำรุด จนไม่สามารถจ่ายค่าปรับได้ในเวลาที่กำหนด จึงออกมาตรการการชำระค่าปรับแบบออนไลน์เพื่อลดปัญหาดังกล่าวในกทม. โดยผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบใบสั่ง และยอดค้างชำระ พร้อมชำระค่าปรับได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ โดยมีวิธีการตรวจสอบดังนี้
8 ขั้นตอนลงทะเบียน เพื่อตรวจสอบใบสั่งออนไลน์
- เข้าเว็บไซต์ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ จากนั้นเลือกเมนู ลงทะเบียนใช้งาน
- กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียน เช่น เลขประจำตัวประชาชน, วัน/เดือน/ปีเกิด, ชื่อ-นามสกุล และ Laser ID จากนั้นคลิกถัดไป
- เลือกรูปแบบข้อมูลที่ต้องการใช้ลงทะเบียน ข้อมูลรถที่ครอบครองหรือใช้ข้อมูลใบขับขี่ จากนั้นกดถัดไป
- กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน จากนั้นคลิกถัดไป
- เมื่อระบบแสดงข้อมูลทั้งหมดที่ได้ลงทะเบียนไว้ ให้คุณตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นกรอกอีเมลเพื่อใช้ในการลงทะเบียน และกดถัดไป
- ทำการตรวจสอบอีเมลที่ใช้ยืนยันลงทะเบียน และนำรหัส OTP จำนวน 6 หลักที่ระบบส่งไปยังอีเมล มาใช้เพื่อยืนยันการลงทะเบียน
- ตั้งรหัสผ่าน รวมถึงยืนยันรหัสผ่านอีกครั้ง จากนั้นคลิกลงทะเบียน เป็นอันเสร็จสิ้น
คุณสามารถ Login เข้าใช้งานได้เลย ด้วยเลขบัตรประชาชน และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ จากนั้นเลือกช่วงเวลาที่ต้องการตรวจสอบใบสั่งค้างชำระ และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน โดยใส่เลขทะเบียนรถ และเลขที่ใบสั่ง จากนั้นกดค้นหา
เมื่อใบสั่งแสดงขึ้นมาในระบบ แสดงว่ามีใบสั่งที่ยังค้างชำระ แต่หากไม่มีรายการค้างชำระค่าปรับ ระบบจะแจ้งว่าไม่พบข้อมูลใบสั่งในระบบ และหากได้รับใบสั่งมากกว่า 1 คัน ระบบจะแสดงรายการทั้งหมดภายใต้ชื่อคนเดียวกัน
ไม่จ่ายใบสั่ง มีโทษทางกฎหมาย ระวังถูกจับปรับ
เมื่อทราบยอดค้างชำระแล้ว ควรดำเนินการจ่ายให้เรียบร้อย หากค้างชำระ หรือฝ่าฝืน จะมีโทษตามกฎหมาย โดยจะมีขั้นตอนการแจ้งเตือน ไปจนถึงการเรียกค่าปรับ ดังนี้
- กรณีผู้กระทำความผิดไม่มาชำระค่าปรับ เมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบสั่ง เจ้าพนักงานจราจรจะออกหนังสือแจ้งการไม่ปฏิบัติตามใบสั่ง (ใบเตือน) โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน 15 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระค่าปรับในใบสั่ง โดยให้ถือว่าเจ้าของ/ผู้ครอบครอง ได้รับแจ้งเมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันส่ง และต้องชำระค่าปรับภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ซึ่งผู้กระทำความผิดสามารถเลือกชำระค่าปรับได้ที่สถานีตำรวจทุกสถานีทั่วประเทศ, ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ของธนาคารกรุงไทย, เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีสัญลักษณ์ PTM และทางไปรษณีย์
- กรณีพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบเตือน และผู้กระทำความผิดยังไม่มาชำระค่าปรับ นอกจากการส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการตามมาตรการงดออกเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีแล้ว พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อให้มาชำระค่าปรับ หากไม่มาพบตามหมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง พนักงานสอบสวนจะยื่นคำร้องขออนุมัติศาลในเขตพื้นที่เพื่อออกหมายจับ
- กรณีถูกออกหมายเรียกหรือหมายจับ ผู้ต้องหาจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา ตามข้อหาที่ผู้ต้องหากระทำผิดตามใบสั่ง และความผิดข้อหาตามมาตรา 155
“ผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ม.141 (ชำระค่าปรับในเวลาที่กำหนดในใบสั่ง) โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ซึ่งในขั้นตอนนี้ผู้ต้องหาต้องเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง ณ สถานีตำรวจที่ออกหมายเรียก หมายจับ ไม่สามารถชำระผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทาง Facebook และ Twitter 1197
บทความที่เกี่ยวข้อง
- กฎจราจร 2565 อัปเดตใหม่! เพิ่มโทษหนักขึ้น!
- 5 วัตถุมงคล นิยมบูชาหน้ารถ เสริมบารมี ขับขี่ปลอดภัย
- ยางมะตอย ติด ยางรถยนต์ ล้างเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้าน ประกันรถยนต์ โทรฯ 0-2767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อม เช็คราคาประกันรถยนต์ ทั้ง ประกันชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th