เช็กวิธีจองคิวต่อใบขับขี่ผ่านแอป 2566

ขั้นตอนการทำใบขับขี่แบบเดิม ๆ ที่ต้องตื่นเช้าไปเพื่อรับบัตรคิว และใช้เวลาเกือบทั้งวันในการทำใบขับขี่จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้บริการจองคิวต่อใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ สามารถเลือกจองคิวที่สำนักงานขนส่งที่สะดวก และจองคิวล่วงหน้าได้หลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นการต่อภาษีรถ อบรมออนไลน์ จองคิวทำใบขับขี่ใหม่ และจองคิวต่อใบขับขี่ ซึ่งสามารถจองคิวบริการล่วงหน้าได้สำหรับใบขับขี่ทุกประเภท

รถแบบไหน ใช้ใบขับขี่อะไร มีกี่ประเภท?

ก่อนจองคิวทำใบขับขี่ อย่าลืมตรวจเช็กดูว่าใบขับขี่ที่เรากำลังจะทำ ตรงกับประเภทการใช้งานหรือไม่ เพราะจริง ๆ แล้วใบขับขี่ไม่ได้มีแค่ ใบขับขี่รถยนต์ กับ ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์เท่านั้น แต่มีด้วยกันถึง 11 ประเภท ได้แก่

1. ใบขับขี่ชนิดชั่วคราว เป็นใบขับขี่ใบแรกสำหรับผู้ขับขี่ทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เพราะเป็นใบขับขี่ที่ออกมาให้ใช้งานได้ชั่วคราว ซึ่งจะมีอายุการใช้งาน 2 ปี โดยมีอยู่ 3 ประเภท คือ ใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว ใบขับขี่รถยนต์สามล้อชั่วคราว และใบขับขี่รถจักรยานยนต์ชั่วคราว
2. ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราวหมดอายุการใช้งาน 2 ปี สามารถนำมาต่ออายุใบขับขี่เป็นใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งจะมีอายุการใช้งาน 5 ปี 
3. ใบขับขี่รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล เมื่อใบขับขี่รถยนต์สามล้อชั่วคราวหมดอายุการใช้งาน 2 ปี สามารถนำมาต่ออายุใบขับขี่เป็นใบขับขี่รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล ซึ่งจะมีอายุการใช้งาน 5 ปี 
4. ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล สามารถทำได้เมื่ออายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยจะทำได้หลังจากที่ครอบครองใบขับขี่รถจักรยานยนต์ชั่วคราวมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี มีอายุการใช้งาน 5 ปี 
5. ใบขับขี่สากล เป็นใบขับขี่รถยนต์ที่อนุญาตให้ขับรถได้ในต่างประเภท โดยจะต้องมีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลก่อน มีอายุการใช้งาน 1 ปี และสามารถใช้ขับรถยนต์ได้ในประเทศที่มีการทำความตกลงระหว่างประเทศ 
6. ใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ สำหรับผู้ที่ขับรถสาธารณะ บริการรถยนต์ส่วนตัว ขับรถขนส่งของ สามารถทำใบขับขี่รถยนต์สาธารณะได้หลังจากมีใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราวมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และต้องมีอายุ 22 ปีขึ้นไป
7. ใบขับขี่รถยนต์สามล้อสาธารณะ มีอายุการใช้งาน 5 ปี สามารถทำได้เมื่อมีใบขับขี่รถยนต์สามล้อชั่วคราวแล้ว
8. ใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีอายุการใช้งาน 3 ปี สำหรับผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์สำหรับขนส่งของ ส่งอาหาร สามารถทำใบขับขี่ประเภทนี้ได้เมื่อมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ชั่วคราวมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี 
9. ใบขับขี่รถบดถนน เนื่องจากรถบดถนนเป็นรถที่มีความอันตรายสูง ดังนั้นก่อนที่จะทำใบขับขี่รถบดถนน ผู้ขับขี่จะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กฎหมายรถยนต์ กฎหมายทางหลวง หรือกฎหมายการจราจรทางบก โดยสามารถทำใบขับขี่ได้เมื่ออายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
10. ใบขับขี่รถแทรกเตอร์ สามารถทำได้เมื่ออายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยใบขับขี่รถแทรกเตอร์จะมีอายุการใช้งาน 5 ปี
11. ใบขับขี่รถชนิดอื่น ๆ เป็นใบขับขี่สำหรับรถประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากรถทุกชนิดที่กล่าวมา เช่น รถใช้งานเกษตรกรรม เป็นต้น โดยใบขับขี่รถชนิดอื่น ๆ จะมีอายุการใช้งาน 5 ปี

ต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านแอป DLT Smart Queue

ใบขับขี่รถทุกประเภท ยกเว้นใบขับขี่ชนิดชั่วคราว และใบขับขี่สากลจะมีอายุการใช้งาน 5 ปี ดังนั้นจึงเป็นการบังคับต่อทุก ๆ 5 ปี ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการทดสอบสมรรถภาพร่างกายเพื่อทดสอบความสามารถในการขับขี่ด้วย การจองคิวต่อใบขับขี่ผ่านแอปฯ จึงเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่อย่างมาก ซึ่งการจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์สามารถทำได้ผ่านแอป DLT Smart Queue ทั้งใน App Store และ Play Store โดยมี 9 ขั้นตอนดังนี้

1. เมื่อเปิดแอปพลิเคชัน ให้ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ โดยเลือกกรอกข้อมูลส่วนตัวที่ตรงกับบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต
2. สร้างรหัสผ่านเพื่อลงทะเบียนให้สมบูรณ์
3. เลือกสำนักงานขนส่งที่สะดวกในการต่อใบขับขี่ สามารถกดเลือกชื่อสำนักงานได้เลย หรือจะค้นหาสำนักงานขนส่งที่ใกล้บ้านผ่านช่องค้นหาก็ได้
4. สำหรับการต่อใบขับขี่ เลือกประเภทงานบริการเป็น “งานใบอนุญาต”
5. เลือกใบอนุญาตขับขี่ที่ต้องการต่ออายุ สำหรับการต่อใบขับขี่อายุ 3 ปีเป็น 3 ปี และอายุ 5 ปีเป็น 5 ปี สามารถเลือกอบรมผ่านระบบ e-Learning ได้ ไม่ต้องไปอบรมที่สำนักงาน
6. เลือกวันที่ที่มีคิวว่างเพื่อเข้าใช้บริการ
7. เลือกช่วงเวลาที่ต้องการเข้าไปใช้บริการ
8. กดยืนยันการจองคิว จากนั้นจะได้รับคิวอาร์โค้ดเพื่อยืนยัน ถ่ายภาพหรือแคปหน้าจอไว้เป็นหลักฐานสำหรับแสดงให้เจ้าหน้าที่ที่สำนักงาน
9. หากต้องการยกเลิกการจอง สามารถทำได้ผ่านแอปฯ โดยกดไอคอน “ยกเลิกการจอง” บริเวณมุมซ้ายล่างได้เลย

ข้อควรระวัง

• ในวันที่เข้ารับบริการที่สำนักงานขนส่ง ควรแต่งกายให้สุภาพ
• ควรติดต่อก่อนเวลาที่ทำการนัดหมายไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
• เตรียมเอกสารประกอบการต่อใบขับขี่ให้เรียบร้อย ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง ใบขับขี่เดิม และใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน
• เตรียมค่าธรรมเนียมการต่อใบขับขี่รถยนต์ 505 บาท และใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 255 บาท
• หากไม่ไปติดต่อที่สำนักงานขนส่งตามระยะเวลาที่จองไว้ จะถือว่าสละสิทธิ์

สำหรับผู้ขับขี่ที่มีใบขับขี่อยู่แล้วแต่หมดอายุ และกำลังกังวลว่าหากรถเกิดอุบัติเหตุระหว่างที่ใบขับขี่หมดอายุ จะได้รับความคุ้มครองจากประกันหรือไม่ ต้องบอกว่าหากผู้ขับขี่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด จะได้รับความคุ้มครองทั้งรถของตัวเอง รถคู่กรณี หรือบุคคลภายนอกทั่วไปทุกประการ เพียงแสดงหลักฐานยืนยันว่ามีใบขับขี่ ทั้งใบขับขี่ที่หมดอายุแล้ว หรือสำเนาใบขับขี่ก็ได้ 

เพื่อความปลอดภัยในการใช้ท้องถนนทั้งกับตนเองและเพื่อนร่วมทาง ควรต่ออายุใบขับขี่ตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ และทำประกันรถยนต์ต่อเนื่องทุกปี โดยเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง 

สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์  โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th