6 ขั้นตอน วิธีจองคิวสอบใบขับขี่รถยนต์ออนไลน์ 2566
![มือใหม่ต้องรู้ 7 ขั้นตอน ทำใบขับขี่รถยนต์ 2564](/sites/default/files/2024-10/%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89-6-%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-2564.jpg)
สอบใบขับขี่ออนไลน์ 2566 เตรียมตัวอย่างไรบ้าง
- วิธีการจองคิวอบรมสอบใบขับขี่ออนไลน์
- สอบใบขับขี่ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- เข้ารับการอบรม
- สอบใบขับขี่ข้อเขียน
- สอบใบขับขี่ปฏิบัติ
- ทำใบขับขี่ชั่วคราว
ปัจจุบันการทำใบขับขี่ถือว่ามีความสะดวกสบายมากขึ้นจากเมื่อก่อนครับ สำหรับมือใหม่ที่กำลังไปทำ ไม่ใช่ว่าเดินเข้ากรมการขนส่งทางบกแล้วทำได้ทันทีนะครับ เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกต้องจำกัดปริมาณคนในการอบรม ตรวจร่างกาย รวมถึงถ่ายรูปติดบัตร โดยให้ผู้ทำใบขับขี่จองคิวล่วงหน้าและเตรียมเอกสารให้พร้อม
บล็อกนี้พี่กู๊ดได้รวมขั้นตอนการทำใบขับขี่แบบละเอียดยิบมาให้ศึกษากันก่อน ลองไปดูกันเลยครับ
1. วิธีการจองคิวอบรม สอบใบขับขี่ออนไลน์
ก่อนจะเข้าอบรม คุณจะต้องจองคิวผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th ก่อน ยังไม่ต้องไปกรมขนส่งทางบกนะครับ ไม่อย่างนั้น ไปเก้อเสียเวลาแน่นอน ที่สำคัญอย่าลืมบันทึกภาพหน้าจอที่จองเอาไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูด้วยนะครับ
2. สอบใบขับขี่ออนไลน์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง
ควรเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อยื่นให้แก่เจ้าหน้าที่สำหรับทำการตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอใบขับขี่ โดยเอกสารมีดังนี้
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือน เพื่อแสดงว่าผู้ขับขี่ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอันตรายขณะขับรถ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนครับ
3. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
เมื่อถึงกำหนดวันนัด อย่าลืมเดินทางไปที่กรมขนส่งทางบกนะครับ เพื่อรับการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และรับรองว่าไม่มีปัญหาในการควบคุมหรือขับขี่รถ สิ่งที่ต้องทดสอบ มีดังนี้
- ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
- ทดสอบสายตาทางลึก
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
- ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรกเท้า)
4. เข้ารับการอบรมก่อนสอบใบขับขี่
เมื่อผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกายเรียบร้อยแล้ว ผู้ขับขี่สามารถเข้าอบรมต่อได้ และต้องอบรมอย่างน้อย 5 ชั่วโมง ใครแอบกลับบ้านก่อน พี่กู๊ดเตือนว่าระวังจะไม่ผ่านอบรมนะครับ เพราะเจ้าหน้าที่จะคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่ด้วยครับ
5. สอบใบขับขี่ออนไลน์แบบข้อเขียน
ผู้ขับขี่จะต้องทำข้อสอบที่เป็นข้อเขียนผ่านระบบ Electronic Examination (E-exam) ข้อนี้ พี่กู๊ดมีเทคนิคการทำข้อสอบให้ผ่าน ง่ายนิดเดียว มาดูกันครับ
ข้อสอบใบขับขี่ออนไลน์ 2566 ที่ควรอ่านก่อนสอบ
- จริง ๆ แล้วคำตอบอยู่ในคู่มือที่กรมขนส่งแจกให้นั่นแหละครับ อยากสอบผ่าน แนะนำว่าให้อ่านเยอะ ๆ ครับ
- สำหรับใครที่อยากลองทำแบบฝึกหัดก่อนไปสอบจริง สามารถหาแบบทดสอบออนไลน์พร้อมเฉลย มาลองอ่านและฝึกทำก่อนได้ ในอินเทอร์เน็ตมีให้เลือกครบเลยครับ
6. สอบใบขับขี่ ภาคปฏิบัติ
การทดสอบขับรถยนต์ให้ใช้ท่าทดสอบทั้งหมด 7 ท่า แต่พี่กู๊ดจะยกตัวอย่าง 3 ท่าหลักที่ต้องเจออย่างแน่นอน ดังนี้
ท่าที่ 1 ท่าเดินหน้าและถอยหลัง
- ขับรถตามช่องทางที่กำหนดไว้เป็นระยะทาง 12 เมตร โดยสามารถขับเดินหน้า และถอยหลังได้อย่างละ 1 ครั้ง
- ข้อแม้คือห้ามขับชนหรือเบียดเสาทั้งซ้ายขวา และอย่าให้เครื่องยนต์ดับในขณะทดสอบอยู่นะครับ
ท่าที่ 2 ท่าจอดรถเทียบทางเท้า
- ขับรถขนานกับทางเท้า ให้ล้อหน้าและล้อหลังทับเส้นสีที่กำหนดไว้
- เว้นระยะห่างจากขอบทางเท้าไม่เกิน 25 ซม. และขับตรงไป ระวังอย่าให้ชนขอบฟุตบาท
- โดยให้หยุดในเส้นหยุดรถ เว้นระยะห่างไม่เกิน 1 เมตร
ท่าที่ 3 ท่าขับรถถอยเข้าซอง
- เดินหน้ารถให้ขนานกับเส้นจอด โดยให้ล้อด้านหลังตรงกับเสาต้นที่ 3
- หมุนพวงมาลัยไปด้านซ้ายจนสุด จากนั้นถอยหลังอย่างช้า ๆ ทำมุมประมาณ 45 องศา โดยให้มองที่กระจกรถด้านขวาเสมอ
- เมื่อเห็นเสาครบทั้ง 3 ต้น แล้วให้หยุดรถ หมุนพวงมาลัยกลับมาให้ล้อตรง
- จากนั้นถอยหลังตรง จนตำแหน่งหัวรถด้านซ้ายตรงกับเสาต้นที่ 3 แล้วหยุดรถ
- หมุนพวงมาลัยกลับไปทางขวาสุดแล้วถอยหลังช้า ๆ เพื่อให้ตัวรถเข้าไปอยู่ในซอง และขนานเดียวกับเส้นจอด
- ระวังอย่าเปลี่ยนเกียร์เกิน 7 ครั้ง และชนหรือเบียดเสาในพื้นที่ที่กำหนด
6. ทำใบขับขี่ชั่วคราว
เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่าผ่านการทดสอบแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือชำระค่าธรรมเนียม ถ่ายรูป พิมพ์ใบอนุญาต และจ่ายใบขับขี่ สามารถขับรถกลับบ้านแบบถูกต้องตามกฎหมายได้แล้วครับ
แต่ถึงอย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ พี่กู๊ดอยากให้ผู้ขับขี่เข้าอบรมผ่านช่องทางออนไลน์กันจะดีกว่าครับ ไม่ต้องนั่งอบรมกับผู้คนเยอะ ๆ น่าจะปลอดภัยกว่า ไม่ต้องไปถึงกรมการขนส่งทางบก สามารถอบรมออนไลน์ล่วงหน้าได้ที่ https://www.dlt-elearning.com/Home ครับ
เปรียบเทียบประกันรถยนต์ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้านการประกันรถยนต์ ทั้ง ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิกเว็บไซต์ https://www.directasia.co.th หรือสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ โทร 02-767-7777
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
แหล่งข้อมูล: Autodeft และกรมการขนส่งทางบก