300 Rise of an Empire (มหาศึกกำเนิดอาณาจักร) ไม่ตราตรึงใจ แต่ก็ไม่แย่
ถ้าพูดถึงการรีวิวหนังใหม่อาจจะช้าไปสักหน่อย แต่คิดว่าเป็นการแชร์ความเห็นเกี่ยวกับหนังสักเรื่อง ก็ไม่ถือว่าช้าเกินไปหากใครอ่านแล้วสนใจอยากจะไปดู วันที่ผมเขียนถึงหนังเรื่องนี้ครบกำหนดเข้าฉายได้ 1 สัปดาห์พอดี
คิดว่าน่าจะยืนโรงไปได้อีกหลายวัน อย่างน้อยก็อีกสัก 1 สัปดาห์ เพราะกระแสถือว่าใช้ได้อยู่ ผมเป็นคนที่ชอบดูหนังมากๆ คนหนึ่ง เรียกว่าถ้าชื่อเรื่องและทรงของหนังไม่ขี้เหร่จนเกิน ก็ดูค่อนข้างหลากหลายแนว แต่พักหลังห่างจากจากการดูในโรงไปนาน เพราะชอบที่จะดูแบบส่วนตัวอยู่ที่บ้านมากกว่า นอกจากเรื่องไหนที่กระแสดีๆ และชอบส่วนตัวนั่นแหละ ถึงจะเดินเข้าโรงหนังสักที
เกือบจะไม่ไปดูอยู่แล้วเชียว
300 นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ต้องไปดูในโรง เพราะประทับใจและตราตรึงในฉากแอ็คชั่นของภาคที่แล้ว (300 ขุนศึกพันธ์สะท้านโลก) แต่ก็สองจิตสองใจ ชั่งใจอยู่เป็นสัปดาห์ ด้วยเหตุที่เห็นหน้าพระเอกคนใหม่ของภาคที่สอง 300 Rise of an Empire (มหาศึกกำเนิดอาณาจักร) ความรู้สึกที่มีต่ออารมณ์ความเกรี้ยวกราดของหนังลดลงไปเยอะเลย
ความบ้าดีเดือดแบบได้ใจของพระเอกภาคแรกอย่าง ลีโอไนดัส ซึ่งรับบทโดย เจอราร์ด บัตเลอร์ นี่แหละ เป็นไคลแมกซ์สำคัญของเรื่องที่ทำภาพของ 300 ตราตรึงอยู่ในใจของใครหลายๆ คน จนมีการพูดถึงตลอดจนนำไปล้อเลียนและอ้างถึงในแง่มุมต่างๆ อยู่เนืองๆ
นอกจากตัวพระเอกเองแล้ว หนังก็ยังมีแง่มุมอื่นๆ ที่รู้สึกชอบอยู่อีกเหมือนกัน เลยคิดว่าไปดูเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องรออีกหลายเดือนกว่าจะมีแผ่นมาให้ดู ไหนๆ ก็ถือว่าเป็นหนังที่ชอบเรื่องหนึ่ง จะดีจะร้าย ก็เข้าไปดูก่อน สิ่งอื่นๆ ที่ชอบในหนังเรื่องนี้ก็คือภาพสวยๆ คอมพิวเตอร์กราฟิกและเอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ และส่วนตัวผมชอบดูเรื่องราวเกี่ยวกับพวกกรีกหรือโรมันโบราณอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย
10 นาทีแรกสับสนกับเนื้อเรื่องนิดหน่อย
ตอนแรกที่ดูตัวอย่างตอนเปิดตัว คิดว่าภาคนี้เป็นการดำเนินเรื่องต่อจากภาคที่แล้ว เมื่อ ลีโอไนดัส และเหล่านักรบสปาตันที่ต้าน เซอร์ซีส นั้นตายหมด เซอร์ซีสก็จะกรีฑาทัพไปโจมตีเอเธนส์ต่อ แต่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เลยสับสันกับเนื้อเรื่องอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
แท้จริงแล้วเป็นการเล่าเรื่องในอีกด้านหนึ่งที่คู่ขนานกับภาคที่แล้วคือ นอกจากทางฝั่งนักรบสปาตันที่ต่อกรกับกองทัพเปอร์เซียที่นำโดย เซอซีสแล้ว อีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นการดำเนินเรื่องในภาคนี้ก็คือ ฝั่งนักรบของกรีกหรือเอเธนที่นำโดย ธีมีสโทคลีส ซึ่งรับบทโดย ซัลลิแวน สเตเพิลตัน ที่ต่อกรกับทัพเรือของเปอร์เซียที่นำโดยแม่ทัพสาวสุดสวยแสนโหดอย่าง อาร์ทีมีเซีย ที่รับบทโดย เอวา กรีน
ประทับใจไม่เท่าภาคแรก แต่ก็ไม่ผิดหวัง
แม้ ธีมีสโทคลีส จะมีภาพของความเป็นผู้นำ วีรบุรุษ หรือนักรบผู้กล้าที่กล้าต่อกรกับศัตรูอย่างไม่กลัวตายไม่ต่างจาก ลีโอไนดัสและนักรบสปาตัน แต่ก็ยังมิอาจเอาชนะใจ (ผม) เหมือนกับลีโอไนดัสได้จริงๆ แต่ก็ไม่ได้หมายรวมถึงว่า 300 ในภาคนี้จะไม่ได้น่าสนใจ หรือไม่ได้น่าดูไปโดยสิ้นเชิง หรือไม่ได้แย่ถึงขนาดที่ว่าไม่คุ้มค่าตั๋ว
แน่นอนเรื่องเนื้อเรื่องของหนังไม่ได้ซับซ้อนหรือมีการหักมุมอะไรให้ชวนติดตาม ซึ่งผมไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วกับหนังเรื่องนี้ แต่สิ่งที่คาดหวังคือความดิบเถื่อนและภาพสวยๆ ผู้กำกับอย่าง โนแอม เมอร์โร ก็ทำได้ดีไม่แพ้ แซค สไนเดอร์ ผู้กำกับภาคแรก และถ้าหาความคุ้มค่าของค่าตั๋ว แค่ฉากสู้รบระหว่างทัพเรือของทั้ง 2 ฝ่ายในช่วงแรกก็คุ้มแล้ว แต่ที่น่าเสียดายและอยากจะคอมเมนต์หนักๆ คือ เห็นว่าตัดฉากสำคัญในการเจรจาอย่าศึกระหว่าง ธีมีสโทคลีส กับ อาร์ทีมีเซีย ออกไป เห็นว่าตัดไปตั้ง 3 นาที เคืองจริงๆ
ครั้งนี้ผมไปดูแบบดิจิตอล ตั้งใจว่าเมื่อมีแผ่นออกมาจะดู 3D อีกครั้งที่บ้าน ภาพน่าจะสวยทีเดียว ใครไปดูมาแล้วมีความเห็นอย่างไรเข้ามาแชร์กันได้ครับ จะคอมเมนต์ไว้ท้ายบทความหรือเข้าไปคุยที่ Facebook ของ DirectAsia ก็ได้