เจ้าของรถหลายท่านนิยมติดสเกิร์ตรอบคันเพื่อเพิ่มความสวยงามให้รถยนต์ แต่อาจจะยังไม่ทราบว่ามีข้อเสียอื่น ๆ กำลังตามมา รวมถึงความเสี่ยงที่บริษัทประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองอีกด้วยครับ ฉะนั้นก่อนแต่งสเกิร์ตคุณควรทราบก่อนว่าติดแล้วมีผลกระทบอะไรบ้าง และหากไม่อยากเสียสิทธิ์เคลมประกันรถ ควรปฏิบัติอย่างไร มาดูกันครับ
สเกิร์ต คืออะไร
สเกิร์ตรถ หรือ Skirt คือ ชิ้นส่วนของชุดแต่งที่ติดอยู่ด้านข้างตัวรถมีลักษณะคล้าย “กระโปรง” ของรถ ส่วนในต่างประเทศจะเรียกว่า Side Skirt หรือ Side Spoiler
การติดตั้งสเกิร์ตเริ่มต้นมาจากวงการรถแข่ง เนื่องจาก รถติดสเกิร์ตจะทรงตัวได้ดีขึ้นในสภาวะที่รถแข่งแต่ละคันจะต้องวิ่งด้วยความเร็วสูงทั้งทางตรงและทางโค้งเพื่อมุ่งเข้าสู่เส้นชัย โดยหน้าที่หลักของสเกิร์ตรถคือ ช่วยให้ช่องว่างระหว่างถนนกับตัวรถเหลือน้อยที่สุด เพื่อลดแรงดันอากาศที่ลอดใต้ท้องรถขณะรถวิ่ง เนื่องจากลมที่ลอดใต้ท้องขณะรถวิ่งด้วยความเร็วนั้น มีผลทำเกิดแรงยกกับตัวรถ ซึ่งอันตรายมากสำหรับรถที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูงๆ อย่างไรก็ตาม ในวงการ รถแต่ง ติดสเกิร์ตรอบคันมักมีจุดประสงค์ที่ความสวยงามเป็นหลัก
ติดสเกิร์ตรอบคัน มีข้อเสียอย่างไรบ้าง
1. เกิดความเสียหายของตัวถังและสี
การติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมอย่างสเกิร์ตหรืออุปกรณ์อื่น ๆ จำเป็นจะต้องเจาะตัวรถเพื่อยึดชุดแต่งดังกล่าวไม่ให้หลุด ซึ่งถังรถเป็นเหล็กแน่นอนว่าจะส่งผลเสียในระยะยาวที่จะเกิดสนิมขึ้นได้ คุณอาจจะต้องเสียเงินทำสีเพื่อดูแลรอยแผลดังกล่าวในภายหลังเมื่อต้องการถอดสเกิร์ตออกด้วยครับ
2. การขับขี่ยากยิ่งขึ้นและเสี่ยงรถเสียหาย
การติดสเกิร์ตจะทำให้ระยะห่างระหว่างรถกับพื้นใกล้กันมากขึ้น หรือสเกิร์ตที่ยื่นออกไปจากตัวรถเพิ่มโอกาสที่จะไป ครูด เสียดสี ทำให้สีถลอก แตกหัก เมื่อคุณขับรถผ่านลูกระนาด เนินสูง ขึ้นสะพานลาดชัน ถนนลูกรัง หรือขับรถในพื้นที่แคบ ๆ และเสี่ยงสร้างความเสียหายถึงตัวถังด้วยเช่นกัน
3. รถยนต์ราคาตก
ถึงแม้คุณจะดูแลรถเป็นอย่างดี และติดตั้งอุปกรณ์แต่งรถที่มีมูลค่านับแสนบาท แต่การขายรถมือสองที่ผ่านการตกแต่ง มักจะได้ราคาไม่เท่ากับราคาที่ติดตั้งไปหรือต่ำกว่ารถที่ไม่ผ่านการตกแต่ง ส่วนรถแต่งที่ขายต่อในราคาที่สูงกว่ารถเดิม ต้องแต่งได้สวยจริงจนกลายเป็นที่ต้องการของตลาด และต้องขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบรถแต่งด้วยกันเท่านั้น
4. ติดตั้งสเกิร์ตไม่ดี ไอเสียเข้าห้องโดยสารได้
การติดตั้งชุดสเกิร์ตด้านท้ายรถนั้นไม่ควรบังทางของท่อไอเสีย เพราะอาจทำให้ควันไอเสียหลุดลอดผ่านเข้ามายังห้องโดยสาร อาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ถึงขั้นหมดสติ และเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นควรจัดวางสเกิร์ตให้ท่อไอเสียยื่นออกมาจากตัวสเกิร์ต หากท่อไอเสียสั้น ควรต่อให้ยาวขึ้นอีกนิดเพื่อให้พ้นตัวสเกิร์ต
ถึงแม้การติดสเกิร์ตจะทำให้คุณได้ขับรถยนต์ที่เท่ถูกใจแค่ไหน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการดูแลรถยนต์ที่อาจจะยากขึ้นอีกนิด แต่นั่นยังไม่หมดครับ เพราะขับรถสวยแล้วก็ต้องอุ่นใจมีประกันคุ้มครองด้วย โดยเฉพาะใครที่จะทำประกันรถยนต์อยู่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่คุณจะต้องรู้ครับ
เราเคลมสเกิร์ตรอบคันหรือสเกิร์ตหน้าได้ไหม
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ถึงติดสเกิร์ตรอบคัน การทำประกันรถยนต์ก็จะได้รับความคุ้มครอง โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ผู้เอาประกันมักเคลมสีหรือถังรถยนต์ ถึงแม้ประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองครอบคลุม แต่ไม่ได้ครอบคลุมอุปกรณ์ตกแต่งที่ไม่ได้ติดตั้งมาจากโรงงานอย่างแน่นอน ดังนั้นคุณจำเป็นต้องแจ้งกับบริษัทประกันว่ารถยนต์ได้ทำการตกแต่งรถมา เพื่อให้บริษัทประกันพิจารณาว่าเป็นการตกแต่งที่ผิดกฎหมายหรือไม่ หรือเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุแก่ตนเองและรถคันอื่น จากนั้นถึงจะพิจารณาเรื่องความคุ้มครองและแจ้งเงื่อนไขของกรมธรรม์ให้คุณทราบ โดยคุณสามารถแจ้งบริษัทประกันได้ ดังนี้
-
กลุ่มรถแต่งก่อนทำประกันรถยนต์
สำหรับผู้ที่ติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ก่อนทำประกันรถยนต์ไม่ว่าจะเป็น ติดสปอยเลอร์ เปลี่ยนล้อแม็กใหม่ หรือติดตั้งแก๊ส ให้เก็บใบเสร็จหรือหลักฐานเกี่ยวกับอุปกรณ์ตกแต่งไว้ เพื่อยื่นให้บริษัทประกัน และทางบริษัทจะตรวจสภาพรถ รวมถึงประเมินราคาชุดอุปกรณ์ที่แต่งเพิ่มเติม เพื่อคำนวณออกมาเป็นเบี้ยประกันรายปีให้คุณ
-
กลุ่มรถแต่งหลังทำประกันรถยนต์
เข้าใจว่าชุดอุปกรณ์ตกแต่งอาจมีราคาสูง และคุณเองก็อยากได้ความคุ้มครองอุปกรณ์เช่นกัน ดังนั้นให้รีบแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มว่าคุ้มครองครอบคลุมหรือไม่ และหากคุณต้องการรับคุ้มครองให้ทำตาม 4 ขั้นตอน ดังนี้
- ยื่นใบเสร็จอุปกรณ์แต่งรถ หรือถ่ายภาพใบเสร็จเหล่านั้น ส่งให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ เพื่อประเมินราคา
- บริษัทประกันภัยรถยนต์จะคิดเบี้ยประกันเพิ่มเติม
- ชำระค่าเบี้ย
- บริษัทประกันภัยรถยนต์จะออกกรมธรรม์เพิ่มเติม หรือสลักหลังให้ลูกค้า เป็นส่วนที่คุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งรถที่เพิ่มขึ้น
หากบริษัทประกันพิจารณาอุปกรณ์ดังกล่าว และรับคุ้มครองเพิ่มเติมแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าจะส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันรถยนต์รายปีที่ไม่เท่ากัน รวมไปถึงการเคลมเมื่อเกิดอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน
เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้เอาประกันเอง อย่าลืมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ประกันภัยก่อนติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งนะครับ เนื่องจากการตกแต่งรถยนต์เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล และอาจมีผลต่อการทำประกันรถไม่มากก็น้อย อย่าเพิ่งห่วงรถสวยเลยครับ คำนึกถึงเรื่องความปลอดภัย และสิทธิ์ความคุ้มครองจากประกันรถยนต์เป็นหลักก่อนดีกว่า รวมไปถึงสวัสดิภาพในการขับขี่ของผู้ร่วมทางคันอื่นด้วยครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ประกันรถยนต์คุ้มครองรถแต่ง หรือไม่?
- เตือน! ควันสีขาวบอกอะไร ควันรถเป็นสีขาวมาจากสาเหตุใด
- ระวัง! จอดรถไว้นาน มีอะไรบ้างที่จะพัง
เปรียบเทียบประกันรถยนต์ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้านการประกันรถยนต์ ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิกเว็บไซต์ https://www.directasia.co.th หรือสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ โทร 02-767-7777
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด