พาทำความรู้จักฟิล์มรถยนต์แต่ละประเภท และข้อดีของฟิล์มรถยนต์ที่หลายคนมองข้าม

รถยนต์กลายเป็นยานพาหนะหลักที่หลายคนเลือกใช้ในปัจจุบัน เพราะมีความสะดวกสบาย ไม่ต้องเปียกเมื่อฝนตกหรือพบเจอกับฝุ่นและมลภาวะต่างๆ แต่ก็ใช่ว่าการขับรถยนต์จะหนีพ้นแสงแดดกวนใจ การติดฟิล์มรถยนต์จึงเป็นหนึ่งสิ่งจำเป็นที่ควรติดกระจกรถไว้ วันนี้เราเลยจะพาไปทำความรู้จักกับฟิล์มรถยนต์แต่ละประเภทกันว่า ติดฟิล์มรถยนต์แบบไหนดีถึงจะเหมาะกับรถของเรา และการติดฟิล์มรถยนต์นั้นมีข้อดีอย่างไรกัน

ทำไมถึงต้องติดฟิล์มรถยนต์ ?

รถยนต์หนึ่งคัน ก็เหมือนกับร่างกายของคนเราที่ต้องดูแลเอาใจใส่และป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบ การติดฟิล์มรถยนต์จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้รถยนต์ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอากาศของประเทศไทยที่มีความร้อนสูง หากไม่ติดฟิล์มช่วยป้องกันแสง UV ให้รถยนต์ นอกจากจะเป็นการเพิ่มอุณหภูมิความ6ร้อนภายในรถ ยังส่งผลให้แอร์รถยนต์ต้องทำงานหนักกว่าปกติ ซึ่งรวมถึงเครื่องยนต์อื่นๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน ดังนั้น การติดฟิล์มรถยนต์จึงเป็นตัวช่วยป้องกันและแบ่งเบาภาระของรถยนต์ที่ต้องทำงานหนัก รวมถึงยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

ฟิล์มรถยนต์มีกี่ประเภท

1. ฟิล์มย้อมดำ

เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีราคาขายถูก เพราะเป็นเพียงแผ่นฟิล์มที่ทำการย้อมสีดำเท่านั้น ซึ่งจะเน้นไปที่ความเป็นส่วนตัวเมื่ออยู่ในรถอย่างเดียว ไม่สามารถป้องกันความร้อนและรังสี UV ได้ เนื่องจากไม่มีสารป้องกันความร้อนในเนื้อฟิล์ม หากนำฟิล์มติดรถยนต์ประเภทนี้ไปใช้ก็ไม่สามารถใช้ได้นาน ตัวฟิล์มรถยนต์จะซีดจางและเสื่อมสภาพลงในที่สุด

2. ฟิล์มโลหะ

ฟิล์มโลหะ หรือฟิล์มปรอทที่ผู้ใช้รถคุ้นหูกันดี ซึ่งฟิล์มประเภทนี้เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีเคลือบ / ผนึกไอโลหะบนเนื้อฟิล์ม โดยจุดเด่นของฟิล์มรถยนต์ประเภทนี้คือ มีความเงาและสะท้อนแสงได้สูง ป้องกันความร้อนและแสง UV ได้ดี มีให้เลือกหลายสี

3. ฟิล์มใสกันร้อน

คือฟิล์มรถยนต์ชนิดพิเศษที่มักใช้กับรถยนต์ระดับซูเปอร์คาร์ เพราะสามารถโชว์ความงดงามภายในรถยนต์ได้ ถึงแม้จะเป็นฟิล์มรถยนต์แบบใส แต่ก็ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้ดี จึงทำให้ฟิล์มรถยนต์ประเภทนี้ต้องใช้เทคนิคพิเศษในการทำขึ้นมา ทำให้ฟิล์มใสกันร้อนนี้มีราคาที่ค่อนข้างสูงนั่นเอง

4. ฟิล์มดิจิทัล

ฟิล์มรถยนต์นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่อัปเกรดขึ้นมาอีกขั้นจากฟิล์มรถยนต์ประเภทเซรามิกเกรดคุณภาพสูง ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองกับเทคโนโลยียานยนต์ในปัจจุบัน โดยฟิล์มดิทิจัลจะมีจุดเด่นอยู่ที่ การรองรับสัญญาณ 5G / Wi-Fi ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้กับระบบ AI ของรถยนต์ อาทิ ระบบ ADAS / Infotainment / Autoupdate Software & Firmware on the air เป็นต้น เสริมด้วยระบบไฟฟ้าที่ช่วยประหยัดพลังงานให้กับรถยนต์ EV/ Hybrid หรือรถยนต์ประเภท Smart Car ได้เป็นอย่างดี

5. ฟิล์มเซรามิก

ฟิล์มรถยนต์มาตรฐานที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน โดยฟิล์มรถยนต์เซรามิกนี้มีการใช้เทคนิคการผลิตอย่าง Magnetron Sputtering ที่ทำให้อนุภาคของเซรามิกเข้าไปฝังอยู่ในเนื้อฟิล์มเซรามิกแบบ 100% หรืออาจมีการผสมสารอื่นเข้าไปในเนื้อฟิล์มรถยนต์ประเภทนี้ เช่น แพลทินัม / โลหะ / เงิน / ทอง โดยจุดเด่นคือสามารถกันความร้อนได้ดีมาก สีของฟิล์มรถยนต์ด้านนอกเข้มแต่สว่างด้านใน สะท้อนแสงต่ำ ให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ชัดเจนทั้งตอนขับขี่กลางวันและในเวลากลางคืน นอกจากนี้ฟิล์มรถยนต์เซรามิกไม่มีการปิดกั้นสัญญาณดิจิทัลต่างๆ จึงทำให้เป็นที่ต้องการของผู้ใช้รถยนต์ ที่สำคัญหากใช้ฟิล์มติดรถยนต์เซรามิกแท้จะมีราคาค่อนข้างสูง

6. ฟิล์มชาโคล

ฟิล์มรถยนต์ชาโคลเป็นฟิล์มติดรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง ที่ถูกพัฒนาจากฟิล์มคาร์บอนและฟิล์มเซรามิกในปัจจุบัน มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับฟิล์มรถยนต์เซรามิก ทั้งเทคโนโลยีการผลิต การป้องกันความร้อน สี และการสะท้อนจากแสงแดด ทั้งยังมีราคาการติดตั้งฟิล์มรถยนต์อยู่ในราคาที่จับต้องได้ ในประสิทธิภาพที่เทียบเท่ากับฟิล์มรถยนต์เซรามิก

7. ฟิล์มนิรภัย

ฟิล์มนิรภัย เป็นฟิล์มที่มีจุดเด่นด้านความหนาของเนื้อฟิล์มที่มีมากกว่าฟิล์มกรองแสงแบบทั่วไป ซึ่งฟิล์มรถยนต์ทั่วไปจะมีความหนาอยู่ที่ 1.5 mil. แต่ตัวฟิล์มนิรภัยจะมีความหนาประมาณ 4-16 mil. จึงทำให้ฟิล์มรถยนต์นิรภัยมีความทนทานที่มากกว่าถึง 10 เท่า นอกจากจะช่วยป้องกันความร้อนได้ดีแล้ว ยังสามารถป้องกันการถูกขโมยทรัพย์สินภายในรถได้อีกด้วย

ข้อดีของการติดฟิล์มรถยนต์

1.ทัศนวิสัยในการขับขี่

การติดฟิล์มรถยนต์นอกจากจะช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดและรังสี UV ยังช่วยกรองแสงให้เหมาะสมกับการขับขี่ ช่วยให้คุณสบายตาและไม่เกิดอาการล้าของสายตาระหว่างขับขี่ โดยจะเห็นชัดเจนก็ต่อเมื่อคุณขับรถท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจัด ดังนั้นการติดฟิล์มรถยนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณจำเป็นต้องใช้รถยนต์เดินทางอยู่เป็นประจำ

2.มีความเป็นส่วนตัว

การติดฟิล์มรถยนต์ ยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคุณเวลาอยู่บนรถได้อีกด้วย เพราะฟิล์มรถยนต์กรองแสงแต่ละประเภทจะมีโทนสีและความเข้มที่แตกต่างกันออกไป เมื่อมองจากภายนอกเข้ามาในรถจะเลือนราง สำหรับใครที่ไม่อยากให้คนภายนอกมองเข้ามาเห็นภายในรถ การเลือกติดฟิล์มรถยนต์กรองแสงที่มีความหนาถึง 80 % อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณ แต่แน่นอนว่าการเลือกติดฟิล์มกรองแสงที่มีความหนาย่อมมาพร้อมกับราคาที่สูงด้วย ดังนั้นควรพิจารณาถึงความเหมาะสมจะดีที่สุด

3.ป้องกันวัสดุภายในห้องโดยสาร

เพราะการขับขี่รถยนต์ที่ต้องเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจส่งผลให้วัสดุภายในห้องโดยสารเสื่อมสภาพและมีอายุการใช้งานที่ลดลงได้ ดังนั้น การเลือกติดฟิล์มรถยนต์กรองแสงที่มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันแสงแดดและรังสี UV จะช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยนต์ของคุณสวยงามดังเดิม และยังเป็นการยืดอายุใช้งานให้กับอุปกรณ์เหล่านี้ด้วย

4.ช่วยยึดเศษกระจก กรณีเกิดอุบัติเหตุ (กระจกแตก)

หลายคนคงไม่เคยคิดมาก่อนว่า การติดฟิล์มรถยนต์กรองแสงสามารถช่วยยึดเศษกระจกที่เกิดจากการแตกได้ด้วยเนื่องจากฟิล์มรถยนต์แต่ละประเภทมีเทคนิคการผลิตที่แตกต่างกันออกไป บางประเภทใช้การฉาบปรอท บางประเภทใช้การเพิ่มความหนาของเนื้อฟิล์ม เมื่อเรานำฟิล์มรถยนต์มาติดตั้งด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว จึงทำให้ตัวฟิล์มรถยนต์มีความหนาและสามารถยึดเกาะได้เป็นอย่างดี เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นจึงช่วยเซฟ เพิ่มความปลอดภัยให้คุณได้ (ถ้าไม่รุนแรงมาก)

5.ประหยัดพลังงาน

ข้อดีข้อสุดท้ายของการติดฟิล์มรถยนต์ นั่นก็คือ ช่วยประหยัดพลังงานและลดการทำงานของแอร์รถยนต์  เพราะการที่คุณขับขี่รถยนต์เดินทางไปยังที่ต่างๆ ที่ต้องพบเจอกับสภาพอากาศร้อน เครื่องปรับอากาศของรถยนต์จะต้องทำงานหนักกว่าปกติเป็นอย่างมาก ซึ่งหากติดฟิล์มรถยนต์กรองแสงที่มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดและรังสี UV นอกจากจะช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยประหยัดไฟฟ้าและพลังงาน และลดการทำงานหนักของแอร์ภายในรถอีกด้วย

แน่นอนว่าการเลือกฟิล์มที่มีคุณภาพยิ่งเป็นข้อดีกับรถยนต์ในระยะยาว นอกจากนี้การทำประกันรถยนต์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมความอุ่นใจในการขับขี่ให้กับเราแล้ว ยังช่วยคุ้มครองทรัพย์สินและร่างกายอีกด้วย ดังนั้นใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่ซื้อง่าย บริการรวดเร็วทันใจ เราขอแนะนำประกันรถยนต์ชั้น 1 จากไดเร็ค เอเชีย และยังมีการตรวจสภาพรถยนต์ที่รวดเร็ว มีมาตรฐาน คอยให้บริการ ที่สำคัญหากคุณรถเสียหรือเกิดเหตุขัดข้องที่ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ ทาง Direct Asia ก็มีบริการช่วยเหลือ ตลอด 24 ชม. เรียกได้ว่าทำประกันรถยนต์ที่ไดเร็คเอเชีย ครั้งเดียวอุ่นใจไปอีกนานอย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์  โทร. 0-2767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็กเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th