เปิดตัวแล้ว Honda HR-V

Honda HR-V

ตามที่ได้เขียนพรีวิวถึงรถรุ่นใหม่ที่มีกำหนดเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 57 นี้ ตอนนี้เริ่มทยอยเปิดตัวกันออกมาแล้ว เริ่มจาก Honda HR-V 

ในวันที่ผมเขียนบทความนี้เป็นวันรุ่งขึ้นหลังจากมีการแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ลองไปดูกันว่า Honda HR-V ตัวจริงและราคาที่จำหน่ายในไทยเป็นอย่างไรกันบ้าง

Honda HR-V เป็นรถอเนกประสงค์ประเภท Crossover เหมือนกับรุ่นพี่อย่าง Honda CR-V แต่มีขนาดตัวที่เล็กกว่า เน้นตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความคล่องตัว ความอเนกประสงค์ และสมรรถนะที่ลุยได้บ้าง

ฮอนด้าออกแบบ Honda HR-V ขึ้นมาด้วยคอนเซปต์ที่ให้ทั้งความหรูหราและความสปอร์ตไปพร้อมๆ กัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น ที่สำคัญดูจะถูกอกถูกใจผู้ใช้รถชาวไทยไม่น้อยเลยสำหรับรถรุ่นใหม่รุ่นนี้

จากที่มีโอกาสได้สัมผัสตัวจริงของ Honda HR-V มาแล้ว ตัวจริงยิ่งทำให้รู้สึกประทับใจมากขึ้นกว่าที่เห็นในรูปจากข่าวเสียอีก การออกแบบและรายละเอียดต่างๆ ทำได้ค่อนข้างดี ภายในห้องโดยสารสวยและดูดีไม่แพ้ดีไซน์ภายนอก และกว้างขวางพอสมควร ไม่ได้เล็กจนอึดอัด เรียกว่าสวยสมบูรณ์แบบ เป็นรถที่น่าสนใจทีเดียว

หลายคนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับที่นั่งด้านหลัง เพราะอาจจะกำลังเปรียบเทียบกับรถประเภทเดียวกันของอีกค่ายหนึ่งที่มีจุดด้อยในเรื่องความคับแคบของเบาะนั่งด้านหลัง จากที่ได้ลองนั่ง Honda HR-V พื้นที่ด้านหลังนั่งได้ไม่อึดอัด แม้จะไม่ถึงกับนั่งได้อย่างสบายเสียทีเดียว แต่ระยะวางขาและพื้นที่ของเบาะนั่งก็ไม่ได้แคบจนรู้สึกอึดอัด อีกทั้งพื้นที่ของประตูหลังก็ขึ้น-ลงได้อย่างสะดวก

Honda HR-V ในรุ่นท็อปซึ่งมาพร้อมออฟชั่นที่ครบครัน มีทั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แผงควบคุมแอร์ก็เป็นระบบสัมผัสเช่นกัน มี Port เชื่อมต่อทั้ง USB 2 ช่อง HDMI 1 ช่อง และช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ มีซันรูฟขนาดใหญ่ที่มีระบบเปิด-ปิดแบบ One-Touch และอีกหลายออฟชั่นด้วยกัน

ไปดูเรื่องของพื้นที่ใช้สอยกันบ้าง พื้นที่วางสัมภาระด้านหลังมีความกว้างขวางพอสมควร และเบาะด้านหลังยังสามารถพับได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่ได้อีกมาก สามารถพับเก็บได้เป็นแนวราบเสมอกับพื้นรถ ทำให้วางของได้อย่างสะดวก

HR-V ที่จำหน่ายในประเทศไทยมี 3 รุ่นย่อยคือ รุ่น 1.8 S ราคา 890,000 บาท รุ่น 1.8 E ราคา 975,000 บาท และรุ่น 1.8 EL ราคา 1,045,000 บาท ทั้งหมดมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตรเหมือนกัน ด้วยเครื่องยนต์ระดับ 1.8 ลิตรเรื่องของอัตราเร่งแรงบิดน่าจะตอบสนองได้ดี แต่ก็ทำให้ราคาสูงไปหน่อย จนมีหลายคนเปรยๆว่า อยากให้ราคาต่ำกว่านี้ แล้วให้เครื่องแค่ 1.5 มาก็ได้