เคลือบแก้วรถยนต์คืออะไร ข้อดี-ข้อเสียที่คนรักรถต้องรู้!
หากคุณกำลังตัดสินใจเคลือบแก้วรถยนต์ คุณควรศึกษาทั้งข้อดี ข้อเสีย และศึกษาข้อมูลของสารเคลือบก่อนตัดสินใจทำไม่เช่นนั้น แทนที่คุณจะได้ขับรถยนต์สวย ๆ อาจกลายเป็นต้องมานั่งดูแลในภายหลัง DirectAsia รวบรวมข้อมูลที่คนรักรถต้องรู้ เกี่ยวกับการเคลือบแก้วรถยนต์มาฝาก ไปอ่านกันเลย
เคลือบแก้วรถยนต์คืออะไร
การเคลือบแก้วรถยนต์ คือ การเคลือบชั้นผิวของสีรถยนต์ โดยสารที่เคลือบจะเปรียบเสมือนฟิล์มแก้วบาง ๆ เกาะบนพื้นผิวรถยนต์เพื่อเพิ่มความหนาของชั้นผิว ให้มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถปกป้องรักษาสี และพื้นผิวรถยนต์ให้คงสภาพความเงางามไว้ ซึ่งดีกว่าการล้างทำความสะอาดรถยนต์ การเคลือบสีแบบธรรมดา หรือการเคลือบ WAX แบบเดิม ๆ โดยการเคลือบแก้วเพียงครั้งเดียว สามารถอยู่ได้ยาวนานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาเคลือบ และความชำนาญงานของช่างเคลือบด้วยเช่นกัน
เคลือบแก้วรถยนต์ มีกี่ประเภท
เคลือบแก้วรถยนต์ สามารถทำได้ 2 แบบ คือเคลือบด้วยการทา และเคลือบด้วยการพ่น โดยมีรายละเอียดต่างกันดังนี้
1. เคลือบแก้วรถยนต์แบบทา
เป็นวิธีที่คนรักรถส่วนมากจะเลือกใช้มากกว่าการพ่นเพราะสามารถลงน้ำยาเคลือบแก้วได้เต็มที่เคลือบได้หนา เคลือบได้ดี และทนทานกว่า ซึ่งการทาสารเคลือบแก้วจะต้องใช้ช่างเคลือบที่มีความชำนาญเป็นอย่างมาก เพื่อให้สารเคลือบกระจายไปในทุกส่วนของผิวรถยนต์ให้สม่ำเสมอกัน ไม่บางหรือหนาเกินไป
2. เคลือบแก้วรถยนต์แบบพ่น
ส่วนการเคลือบแก้วแบบพ่น เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว มากกว่าการเคลือบแก้วแบบทา โดยการพ่นสารเคลือบมีลักษณะคล้ายกับการพ่นสีรถยนต์ในปัจจุบัน วิธีการนี้จะช่วยให้สารเคลือบกระจายตัวได้ดีโดยไม่ต้องเช็ดของเหลวออก สารเคลือบจะระเหยได้ไว และมีความคงทน ติดทนนานอีกด้วย
ข้อดีของการเคลือบแก้วรถยนต์
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการเคลือบแก้วรถยนต์จะช่วยปกป้องพื้นผิวรถยนต์ และรักษาสีไว้ให้เงางาม ดูสภาพใหม่ได้นานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเคลือบแก้วรถยนต์ยังทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องล้างทำความสะอาดบ่อย เนื่องจากสารเคลือบมีคุณสมบัติป้องกันคราบเปื้อน ทำให้สิ่งสกปรกเกาะสีรถได้ยากขึ้น เช่น คราบฝุ่น ฝน หรือหยดน้ำ ซึ่งสารเคลือบยังทำให้น้ำเกาะบนผิวรถน้อยที่สุด รวมถึงช่วยลดรอยขีดข่วน รอยขนผ้า รอยขนแมวต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องคอยดูแล ทำความสะอาดรถทุกครั้ง แต่หากมีคราบเปื้อนเกิดขึ้นผู้ขับขี่ก็สามารถเช็ดทำความสะอาดออกได้โดยง่าย
ข้อเสียของการเคลือบแก้วรถยนต์
การเคลือบแก้วมีความยากในการทำ ฉะนั้น ควรเลือกร้าน และช่างเคลือบให้ดี เพราะการเคลือบแก้วนั้นจำเป็นต้องใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ และช่างที่มีทักษะสูง รวมถึงการเคลือบแก้วมีราคาค่อนข้างแพง ตั้งแต่หลักหมื่นหรืออาจราคาสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวถังรถรถยนต์ ซึ่งร้านเคลือบแต่ละแห่งจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ผู้ขับขี่ต้องเปรียบเทียบราคากับหลาย ๆ เจ้าก่อนตัดสินใจ
ทั้งนี้ปัญหาของการเคลือบแก้วรถยนต์ที่พบเห็นกันมาในสมัยแรก ๆ ก็ยังคงเป็นเรื่องการแตกของสารเคลือบ เนื่องจากสารเคลือบมีลักษณะค่อนข้างแข็ง อาจทำให้แก้วที่เคลือบบนผิวรถแตกเมื่อผ่านการใช้งานมาในระยะหนึ่ง แต่ในปัจจุบันสารเคลือบได้ถูกพัฒนาให้มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างไรผู้ขับขี่ควรเลือกร้านเคลือบ และควรศึกษาสารเคลือบแก้วที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาวนั่นเอง
การเคลือบแก้วเป็นเพียงการดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น เพื่อป้องกันรอยแผลเล็ก ๆ ได้ แต่หากผิวรถถูกรอยขีดข่วนหนัก ๆ ก็ไม่สามารถป้องกันได้อยู่ดี ให้ DirectAsia ช่วยคุ้มครองรถยนต์ของคุณ ด้วยประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ทั้งแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี พร้อมให้คุณซ่อมจนกว่าจะพอใจ* ด้วยมาตรฐานงานซ่อมระดับช่างมืออาชีพ และการันตีงานซ่อมสีและตัวถัง นานถึง 12 เดือน* โทร 02-767-7777 หรือ https://www.directasia.co.th
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ทั้งประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันชั้น 1 เซฟ, ประกันรถยนต์ 2+, ประกันรถยนต์ 3+, ประกันชั้น 2, และ ประกันชั้น 3 คลิก https://www.directasia.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด