ประกันชั้น 2 กับ 2+ ต่างกันอย่างไร? สรุปให้แล้วแบบง่าย ๆ
ประกันชั้น 2 กับ 2+ ต่างกันอย่างไร
การทำประกันรถยนต์เป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับขี่มองข้ามไม่ได้ หลายท่านมีความคิดที่จะซื้อประกันยนต์ชั้น 2 แต่ยังลังเลอยู่ระหว่างซื้อประกันชั้น 2 กับชั้น 2+ ต่างกันอย่างไร? แล้วแบบไหนดีกว่ากัน? หากเป็นชั้น 2+ จะแตกต่างกับชั้น 2 ตรงไหน และมีความคุ้มครองอะไรเพิ่มมาบ้าง? มาดูกันเลย
ตารางเปรียบเทียบประกันชั้น 2 กับ 2+ ของ DirectAsia
รายการความคุ้มครอง | ประกันชั้น 2+ | ประกันชั้น 2 |
ความเสียหายต่อรถยนต์ กรณีเกิดการชนกับพาหนะทางบก | ✔ | |
ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ | ✔ | |
ความเสียหายส่วนแรก (สำหรับความเสียหายต่อรถยนต์) | ✔ | |
ความเสียหายต่อรถยนต์เนื่องจากสูญหาย ไฟไหม้ | ✔ | ✔ |
ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก - ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัย | ✔ | ✔ |
ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก - ความเสียหายต่อทรัพย์สิน | ✔ | ✔ |
ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก - ความเสียหายส่วนแรก (สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สิน) | ✔ | ✔ |
การเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สายตาสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร | ✔ | ✔ |
ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร | ✔ | ✔ |
ประกันตัวผู้ขับขี่ | ✔ | ✔ |
บริการรถยก 24 ชั่วโมง | ✔ |
จากตารางเปรียบเทียบความคุ้มครอง ประกันชั้น 2 ให้ความคุ้มครองที่ค่อนข้างครอบคลุมอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่มีความคุ้มครองในส่วนของ ความคุ้มครองต่อตัวรถยนต์ (กรณีรถชนกับพาหนะทางบก) หรือ ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ
นอกเหนือจากประกันรถยนต์ชั้น 1 และประกันรถยนต์ 2+แล้ว ประกันชั้น 2 ยังเป็นประกันชั้นเดียวที่ให้ความคุ้มครองกรณีเกิดความเสียหายต่อตัวรถยนต์ เนื่องจากสูญหายหรือไฟไหม้แต่ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบประกันชั้น 2+
ส่วนประกันชั้น 2+ จะคุ้มครองรถยนต์ในกรณีเกิดการชนกับพาหนะทางบก (รถชนรถ) และคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ หากผู้ขับขี่ท่านใดที่กังวลเรื่องของอุบัติเหตุรถชนรถ การเปลี่ยนมาทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ อาจจะตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า
ประกันชั้น 2 เหมาะกับใคร?
คุณอาจจะซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2 ในราคาที่ย่อมเยากว่า แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าประกันประเภทนี้จะเหมาะกับผู้ขับขี่ทุกคน เพราะประกันชั้น 2 เหมาะกับผู้ที่ขับรถมานาน มีประสบการณ์มาก มีวินัยในการขับขี่ ไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นรถชนรถ หรือชนสิ่งของ เป็นสาเหตุให้ประกันชั้น 2 ไม่มีความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ทั้งในกรณีชนกับพาหนะทางบก และในกรณีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนสิ่งของ
ดังที่กล่าวไปข้างต้น ประกันรถยนต์ชั้น 2 คือ ประกันที่ไม่คุ้มครองความเสียหายของรถประกัน กรณีเกิดอุบัติเหตุการชน สำหรับผู้ที่ขับรถไม่ชำนาญ หรือไม่มีประสบการณ์ขับรถที่มากพอสมควร ไม่แนะนำให้ซื้อประกันรถยนต์ประเภทนี้ เนื่องจากความคุ้มครองอาจยังไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่สักเท่าไหร่
ประกันชั้น 2+ เหมาะกับใคร?
ประกันชั้น 2+ เหมาะกับผู้ที่เชี่ยวชาญในการขับรถเช่นกัน แต่อาจต้องการความคุ้มครองที่มากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีรถชนรถที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากผู้ขับขี่มักใช้เส้นทางเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือขับขี่ในพื้นที่ที่มีรถแออัดขับบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้เอาประกันที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว ลมพายุ หรือลูกเห็บตก ก็สามารถซื้อประกันชั้น 2+ จะตอบโจทย์กรณีที่กล่าวไปข้างต้นได้
DirectAsia ประกันรถยนต์ ที่ให้มากกว่าความคุ้มครอง
ตอบคำถามไปแล้วกับประกันชั้น 2 กับชั้น 2+ ต่างกันอย่างไร และ DirectAsia พร้อม DirectAsia ให้คุณทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ และชั้น 2 ได้สบาย ๆ เพียงกรอกรายละเอียดเลย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกรับค่าเสียหายส่วนแรกสำหรับประกันรถยนต์ชั้น 2+ ได้ และ DirectAsia ยังให้ความคุ้มครอง กรณีรถหายหรือไฟไหม้สูงสุด 2 เท่า ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก, ค่ารักษาพยาบาล, ค่าประกันตัวผู้ขับขี่
นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุที่เกิดจากรถชนรถด้วย ซึ่งใกล้เคียงประกันชั้น 1 และสามารถประหยัดค่าเบี้ยได้ดี ผู้เอาประกันสามารถเลือกแผนคุ้มครองผู้ขับขี่ ที่มีให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ Value Plan (ระบุผู้ขับขี่ได้ 2 ท่าน), Value Plus Plan (ระบุผู้ขับขี่ได้ 2 ท่าน และและใครก็ตามที่มีอายุ 30 ปี และมีใบขับขี่ 2 ปี ขึ้นไป) และ Flexible Plan (ไม่ระบุผู้ขับขี่)
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ฟรี!