จริงหรือ? เบี้ยประกันรถไฟฟ้า EV แพงกว่ารถยนต์ทั่วไป
- รถยนต์ไฟฟ้า กับ รถยนต์ใช้น้ำมันทั่วไป ต่างกันอย่างไร
- เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า แพงกว่ารถยนต์ทั่วไป หรือไม่
- พรบ รถไฟฟ้า EV
ประกันรถยนต์ EV เบี้ยแพงจริงหรือไม่ สำหรับผู้ขับขี่ที่สนใจซื้อรถยนต์ EV และกำลังมองหาบริษัทประกันภัยที่รับคุ้มครอง ควรศึกษาเรื่องอะไรบ้าง มาอ่านกัน
รถยนต์ไฟฟ้า กับ รถยนต์ใช้น้ำมันทั่วไป ต่างกันอย่างไร
รถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไป ต่างกันตรงที่รถไฟฟ้าจะใช้พลังงานจากไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน โดยสามารถชาร์จไฟได้เมื่อแบตเตอรี่หมด ส่วนรถยนต์ทั่วไปจะใช้พลังงานจากน้ำมัน
ข้อดีของรถไฟฟ้าev
ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าที่โดนใจหลายคน คือช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้พอสมควร โดยเฉพาะค่าน้ำมัน เนื่องจากรถ EV ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว 100% และค่าไฟก็ถือว่าราคาต่ำกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ผู้ขับขี่จ่ายน้อยกว่าการเติมน้ำมันต่อครั้ง รวมถึงค่าซ่อมบำรุงรักษาด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ รถไฟฟ้า EV ยังขับสบาย เสียงเครื่องยนต์เงียบ มีอัตราเร่งที่ดีกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน และที่สำคัญยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ข้อเสียของรถไฟฟ้าev
ถึงแม้รถ EV จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จากอดีต แต่หากลองนับบนท้องถนนดูแล้ว ก็ถือว่ายังมีปริมาณที่น้อยมาก ๆ อาจเป็นเพราะราคาส่วนต่างที่ต้องจ่ายแพงกว่ารถยนต์ทั่วไปเยอะพอสมควร จึงส่งผลให้สถานีบริการ รวมถึงศูนย์ซ่อมบำรุงมีจำนวนน้อยตามกัน ทั้งนี้ รถยนต์ EV ยังมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางขับขี่ เมื่อเทียบกับรถยนต์ใช้น้ำมันแล้วถือว่าขับขี่ได้ในระยะที่สั้นกว่า และใช้เวลาในการชาร์จไฟฟ้านานเฉลี่ย 20-30 นาที/ครั้งเลยทีเดียว
เบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้า แพงกว่ารถยนต์ทั่วไป หรือไม่
ประกันรถยนต์ EV ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ใหม่ แต่ก็ยังไม่แพร่หลายในบริษัทประกันภัยนัก เมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ทั่วไป นี่จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เบี้ยประกันภัยรถ EV แพงกว่ารถทั่วไปในประเภทเดียวกัน ซึ่ง DirectAsia ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อราคาเบี้ยประกันภัย โดยพิจารณาได้ดังต่อไปนี้
สมาคมประกันวินาศภัย ได้เผยเกณฑ์อัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์รหัส 110 และ 120 ที่เป็นรถนั่งส่วนบุคคล และรถยนต์ไฟฟ้ารหัส 110E และ 120E โดยไม่ได้ระบุว่ารถไฟฟ้ามีความเสี่ยงมากเพียงใด แต่มีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้
ความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุ
บริษัทประกันภัยจะพิจารณาความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุต่อตัวรถยนต์ และผู้ขับขี่ เพื่อนำมาประเมินราคาเบี้ยประกันภัย หากเสี่ยงสูง เบี้ยประกันก็ยิ่งสูงตามกัน แต่รถ EV ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถประเมินความเสี่ยงได้ เนื่องจากผู้ขับขี่ในประเทศไทยยังมีจำนวนน้อย การประเมินความเสียหายเมื่อเกิดอุบัติเหตุจึงเป็นไปได้ยาก ทำให้บริษัทประกันภัยตั้งราคาเบี้ยประกันที่อาจสูงกว่าความเป็นจริง เพื่อทดแทนความเสี่ยงที่ไม่แน่นอนในส่วนนั้นนั่นเอง
ศูนย์บริการ
เนื่องด้วยรถ EV มีศูนย์ให้บริการค่อนข้างน้อย การซ่อมบำรุง หรือเบิกอะไหล่ จะต้องผ่านศูนย์เท่านั้น ซึ่งต้องใช้เวลา และบริษัทประกันอาจมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก รวมถึงมีค่าดำเนินการต่อการเคลมที่มูลค่าสูงกว่ารถทั่วไป ทำให้แผนประกันรถ EV มีแต่แบบซ่อมศูนย์ และแน่นอนว่าการทำประกันซ่อมศูนย์ มักจะแพงกว่าซ่อมอู่ ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่เบี้ยประกันรถ EV ราคาแพงขึ้นด้วย
บริษัทฯ รับประกันรถ EV มีจำนวนน้อย
เนื่องจากบริษัทประกันที่คุ้มครองรถ EV ในประเทศไทยยังมีจำนวนน้อย จึงทำให้บริษัทดังกล่าวสามารถตั้งราคาเบี้ยประกันภัยที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป แต่นั่นไม่ได้แปลว่าผู้ขับขี่จะได้รับราคาที่ไม่เป็นธรรม เพราะคปภ.ได้กำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยของรถแต่ละประเภทไว้อยู่แล้ว ซึ่งรถ EV ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ส่วนใครที่อยากทำความเข้าใจเรื่องเกณฑ์การตั้งราคาเบี้ยประกันภัย DirectAsia เคยอธิบายไว้แล้ว สามารถเข้าไปศึกษาได้อย่างรายละเอียด ที่นี่ “ทำไม? รถยนต์แต่ละกลุ่ม เบี้ยประกันรถยนต์ ถูก-แพงไม่เท่ากัน”
พรบ รถไฟฟ้า EV
ถึงเบี้ยประกันรถยนต์ EV จะราคาสูงกว่ารถยนต์เติมน้ำมันทั่วไป แต่สำหรับประกันภาคบังคับ หรือ พรบ ไม่ได้แพงกว่าแต่อย่างใด โดยคปภ.กำหนดให้เบี้ยประกันภัย พ.ร.บ. เป็นอัตราเบี้ยคงที่อัตราเดียว แต่แยกตามประเภทรถ และลักษณะการใช้รถ บริษัทประกันจะไม่สามารถคิดเบี้ยประกันภัยต่างจากที่คปภ.กำหนด ได้ ซึ่งรถยนต์ส่วนบุคคล นั่งไม่เกิน 7 คน รหัส 110 120 และรถไฟฟ้าส่วนบุคคล นั่งไม่เกิน 7 คน รหัส 110E มีอัตราเบี้ยประกันภัยอยู่ที่ 600 บาท/ปี
ถึงอย่างไร ปัจจัยที่ได้นำเสนอไปข้างต้น เป็นเพียงการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ สำหรับผู้ขับขี่ที่สนใจจะซื้อรถยนต์ EV และกำลังมองหาบริษัทประกันภัยที่รับคุ้มครอง DirectAsia แนะนำว่าให้ศึกษาถึงเงื่อนไขกรมธรรม์ รวมถึงเปรียบเทียบผู้ให้บริการในหลาย ๆ เจ้า จะช่วยใหคุณได้รับประกันภัยรถยนต์ที่ตอบโจทย์มากที่สุด
ส่วนใครที่ไม่มีรถ EV แต่อยากได้ประกันรถเบี้ยราคาดี แนะนำ DirectAsia เรามีอู่คุณภาพในเครือกว่า 1,000 แห่ง* เคลมไว ถึงจุดเกิดเหตุใน 30 นาที* แถมไม่ต้องกังวลเรื่องงานซ่อม เพราะเรารับรองคุ้มภาพงานสี และตัวถังนานสุด 12 เดือน* พร้อมดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนจบ สนใจโทร 02 767 7777 หรือ https://www.directasia.co.th
สอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยรถยนต์ โทร 02-767-7777 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมคลิก https://www.directasia.co.th
อ้างอิง: สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
