What can we help you with?

ถูกชนแล้วหนีต้องทำอย่างไร

ถูกชนแล้วหนีต้องทำอย่างไร

การถูกชนแล้วคู่กรณีหนีจากจุดเกิดเหตุโดยที่ไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น คงเป็นสิ่งที่ไม่มีอยากจะเจอและให้เกิดขึ้น แต่ถ้าต้องเจอเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวจริงๆ ผู้ที่ประสบเหตุควรจะต้องทำอย่างไร วันนี้ ไดเร็คเอเชีย มีคำแนะนำมาฝากกันครับ

ตัวอย่างการถูกชนแล้วหนี

การถูกชนแล้วหนีในแง่ความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ต่อความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบ่งเป็น 2 กรณีคือ...

กรณีที่หนึ่ง

หากพิสูจน์หรือแจ้งคู่กรณีได้ ดำเนินการแจ้งความแล้วนำบันทึกประจำวันแจ้งกับบริษัทประกันภัย จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขหรือประเภทของประกันภัยที่ทำไว้

กรณีที่สอง

หากไม่สามารถพิสูจน์คู่กรณีได้ กรณีนี้หากผู้เสียหายแจ้งเคลมกับบริษัทประกันภัยให้รับผิดชอบต่อความเสียหายต่อรถยนต์ที่เกิดขึ้น ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกจำนวน 1,000 บาท

ทำไมต้องเสีย 1,000 บาท หากไม่มีคู่กรณี

เงื่อนไขในการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก กรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วไม่สามารถแจ้งหรือยืนยันได้ว่าคู่กรณีเป็นใคร เกิดเหตุในวันที่และเวลาอะไร สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ได้กำหนดไว้ว่า ผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก จำนวน 1,000 บาท ต่อ 1 เหตุการณ์

ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้เอาประกันและบริษัทประกันภัย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นมา

ความเสียหายต่อ 1 เหตุการณ์ นับอย่างไร

ในการนับความเสียหายที่เกิดขึ้น ต่อ 1 เหตุการณ์ไม่ได้หมายถึง ต่อ 1 จุดหรือ 1 ชิ้นส่วนของรถยนต์ ความเสียหาย ต่อ 1 เหตุการณ์อาจมีความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวรถยนต์ได้ตั้งแต่ 1 ชิ้น หรือมากกว่า ทั้งนี้ต้องพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นมาจากเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุเดียวกันจริงๆ

เช่น การเกิดอุบัติเหตุการเบียดกันบนถนน ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจมีได้ 3-4 ชิ้น คือ มุมกันชนหน้า, บังโคลนหน้า, ประตูหน้า และประตูหลัง ข้างหนึ่งข้างใด เป็นต้น

เกี่ยวกับการชนแล้วหนีในแง่ประกันภัย เพื่อเป็นการรักษาสิทธิความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ตลอดจนเป็นการรักษาข้อมูลประวัติดีของผู้เอาประกันภัยด้วย หากประสบเหตุและเห็นว่าคู่กรณีมีท่าทีที่จะไม่รับผิดชอบ ไม่ยอมจอดรถเพื่อลงมาเจรจา และพยายามที่จะขับรถหลบหนี ในเบื้องต้นพยายามถ่ายรูปรถคู่กรณีให้ได้ พยายามให้เห็นข้อมูลป้ายทะเบียนให้ชัดเจนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่หากมีกล้อง Car DVD ติดตั้งไว้ ก็จะช่วยลดปัญหาและความยุ่งยากในการติดตามคู่กรณีไปได้

หากมีหลักฐานของคู่กรณีที่ชัดเจน เพียงเท่านี้ผู้เอาประกันภัยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อมและค่าเสียหายแต่อย่างใด เพียงติดต่อเจ้าหน้าที่ของ ไดเร็ค เอเชีย เพื่อแจ้งอุบัติเหตุเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ ‘แชมป์’ จะดำเนินการประสานงานกับศูนย์เพื่อนำรถเข้าซ่อม รวมถึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามดำเนินคดีกับคู่กรณีให้เอง